วันนี้( 19 ธ.ค. 64)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ สภ.สะเดา จ.สงขลา พร้อมกับทหาร ฉก.ร.5 ร้อย ร.5021 ตชด.437 ตม.สะเดา และฝ่ายปกครองอำเภอสะเดา นำโดย พ.ต.อ.บรรเทิง เหล่าเจริญ ผกก.สะเดา และ พ.อ.ธนิตพนธ์ หงส์วิไล ผบ.ฉก.ร.5 ร่วมกันจับกุมผู้นำพาชาวไทยและแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาได้รวม 15 คน พร้อมรถยนต์กระบะ 1 คัน
หลังจากที่ช่วงดึกของเมื่อคืนที่ผ่านมา(18 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตั้งจุดตรวจบริเวณ 4 แยกไฟแดงหน้า สภ.สะเดา เขตเทศบาลเมืองสะเดา และสังเกตเห็นรถยนต์กระบะ โตโยต้า วีโก้ แบบแคป สีดำ ทะเบียน ผท-1795 สงขลา ขับผ่านมาท่าทางมีพิรุธ มีผ้าใบปิดอยู่ที่ท้ายกระบะ จึงส่งสัญญาณให้หยุดรถ เพื่อขอตรวจสอบ
แต่กลับเร่งเครื่องขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยมุ่งหน้าไปทาง ต.สำนักขาม อ.สะเดา และเจ้าหน้าที่ได้ประสานกำลังขับรถติดตามไล่ล่ากันมากกว่า 10 กิโลเมตร พร้อมกับเปิดไซเรน และบอกให้หยุดรถมากกว่า 10 ครั้ง
สุดท้ายจึงจำเป็นต้องยิงสกัดเข้าที่ล้อหน้าขวา และล้อหลังขวา จนรถต้องสงสัยความเร็วลดลง และรถยนต์กระบะของตำรวจได้ไปดักหน้ารอในระยะที่ปลอดภัย เพื่อสกัดรถไม่ให้หลบหนี แต่คนขับก็ยังพยามถอยหลัง และขับชนเข้ากับรถของตำรวจจนพังเสียหายไปทั่งคู่ และจนมุมในที่สุดที่บริเวณถนนสายสะเดา-บ้านม่วง ม.3 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา
จากการตรวจสอบพบว่า คนขับเป็นคนไทยคือ นายเอกรัตน์ ไกรแก้ว อายุ 42 ปี ชาว ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ส่วนที่เหลือเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา 14 คน โดยเป็นชาย 11 คน และหญิง 3 คน จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.สะเดา
พบว่า แรงงานต่างด้าวชาวเมียนมากลุ่มนี้ได้ลักลอบเข้าเมืองมาจากทางฝั่ง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผ่านช่องทางธรรมชาติ และมีคนนำพากระทั่งมาถึง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อจะข้ามชายแดนไปยังประเทศมาเลเซียเพื่อไปทำงาน ต้องจ่ายค่านายหน้าในราคาคนละ 25,000 บาท
ส่วนผู้นำพาชาวไทยคือ นายเอกรัตน์ ไกรแก้ว ให้การในเบื้องต้นว่า ได้รับการติดต่อจากชายไม่ทราบชื่อสกุลจริงให้เดินทางไปรับแรงงานต่างด้าวทั้งหมด 2 จุด บริเวณป่าละเมาะในพื้นที่ ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ โดยจุดแรกรับมา 1 คน เป็นผู้นำพาชาวเมียนมา และอีกจุดเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาอีก 13 คน ก่อนพาขึ้นรถ เพื่อไปส่งยังชายแดนไทย-มาเลเซีย ใน อ.สะเดา แต่ก็ถูกจับกุมเสียก่อน โดยหากทำสำเร็จจะได้รับค่าจ้างจำนวน 5,000 บาท
ทั้งนี้หลังจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนขยายผล รวมทั้งตรวจหาเชื้อโควิด 19 ทุกคน เพื่อความปลอดภัยทั้งกลุ่มผู้ต้องหา และเจ้าหน้าที่ โดยในส่วนของผู้นำพาชาวไทยถูกแจ้ง 2 ข้อหาคือ ให้การช่วยเหลือ ให้ที่พักพิง ให้ที่พักอาศัยคนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้พ้นการจับกุมจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ และ ทำให้ทรัพย์สินทางราชการเสียหายฯ ส่วนแรงงานต่างด้างชาวเมียนมาและผู้นำพาชาวเมียนมา ถูกแจ้งข้อหาเป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สะเดา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป