เมื่อเวลา 23.00น. วันที่22 ธ.ค. 2564 พ.ต.ท.ชยุต จรรยาเลิศ รอง ผกก.(สอบสวน) งานศูนย์ควบคุมจราจร สน.ทางด่วน 2 ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำบนทางด่วนมหานครขั้นที่ 2 หรือทางด่วนศรีรัช มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ “ตกทางด่วน” ลงไปในน้ำบริเวณบึงมักกะสัน ฝั่งมุ่งหน้าถนนพระราม 9 แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ จึงไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.สุวิชชา จินดาคำ ผบก.จร. พ.ต.อ.ณัฐพัฒนส์ ธรรมชุตินันท์ ผกก.2บก.จร. แพทย์นิติเวช รพ.รามาธิบดี และนักประดาน้ำมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่ด้านบนทางด่วน ช่วงโค้งซ้ายจากด่านดินแดง มุ่งหน้าไปพระราม 9 เหนือบึงมักกะสัน เจ้าหน้าที่พบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น ซีบีอาร์ 300 อาร์ สีเหลือง ทะเบียน 5-กญ-2592 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถประจำตำแหน่งของ ส.ต.ท.ปภาวิน จันทร์แก้ว หรือเติ้ล อายุ 31 ปี ผบ.หมู่งานศูนย์ควบคุมการจราจร สน.ทางด่วน 2 พลิกคว่ำอยู่ตรงขอบทางด้านซ้าย สภาพรถซีกซ้ายมีรอยครูดไถล ช่วงท้ายรถและซีกขวาไม่มีรอยเฉี่ยวชน
ใกล้กันพบหมวกนิรภัยรหัสหมวก 8334 ตกอยู่ 1 ใบ วิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง และรองเท้าบูทหนังตกอยู่ 1 ข้าง ส่วนร่างของ ส.ต.ท.ปภาวิน กระแทกกับเสาไฟส่องสว่าง “ตกทางด่วน” ลงไปในน้ำบึงมักกะสัน ด้วยความสูงประมาณ 30 เมตร นักประดาต้องใช้เวลา 3 ชั่วโมงกว่าจะงมศพขึ้นมาได้
ระหว่างที่กำลังค้นหาร่างผู้เสียชีวิต นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ พร้อมระบุว่า ได้รับแจ้งจาก น.ส.วาสุกาญจน์ หรือแนน ประจง ผู้ช่วย ส.ส. ของตนและเป็นแฟนกับสิบตำรวจโทปภาวิน ว่าถูกรถชนบนทางด่วนและคาดว่าร่างตกลงมาด้านล่าง จึงมาช่วยประสานงานกับเจ้าหน้าที่ในการช่วยค้นหาร่าง และตรวจสอบกล้องวงจรปิดบนทางด่วน นอกจากนี้ยังทราบว่าทั้งคู่กำลังจะแต่งงานกันในเดือนกุมภาพันธ์นี้
ด้าน น.ส.วาสุกาญจน์ แฟนสาวของผู้เสียชีวิต เมื่อเห็นร่างแฟนหนุ่มแฟนสาวได้ลงไปกอดร่างพร้อมกับร้องไห้ด้วยความเสียใจ พร้อมกับพูดว่า ไหนบอกจะไปอยู่ด้วยกันไง เติ้ลจ๋า เติ้ลได้ยินไหม กุมภาก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว ใครทำเติ้ลมีคนชนเติ้ลไหม เติ้ลไม่ได้ยินเขาแล้วใช่ไหม เติ้ลทิ้งเขาไปแล้ว
จากการตรวจสอบสภาพศพผู้ตาย พบว่า ยังสวมเครื่องแบบตำรวจทางด่วนเต็มยศ อวัยวะภายในบอบช้ำ มีเลือดออกที่ปาก และจมูกจำนวนมาก ไม่พบอาวุธปืนประจำกาย และไม่พบวิทยุสื่อสารอีก 1 เครื่องที่ต้องพกติดตัวตลอด เบื้องต้นพบเพียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงผู้ตายสภาพถูกกระแทกจนได้รับความเสียหายพังยับเยิน เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน ก่อนมอบร่าง ส.ต.ท.ปภาวิน ให้แพทย์ผ่าชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง
พลตำรวจตรีสุวิชชา จินดาคำ ผู้บังคับการตำรวจจราจร เปิดเผยว่า สำหรับสาเหตุครั้งนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบทั้งกล้องวงจรปิดด้านบนทางด่วน และหาผู้เห็นเหตุการณ์ โดยยังไม่สามารถระบุได้ว่าอุบัติเหตุนี้จะมีรถยนต์คู่กรณีหรือไม่ ส่วนสิบตำรวจโทปภาวิน ก่อนเกิดเหตุได้ปฏิบัติหน้าที่ตรวจความเรียบร้อยของเส้นทางตามปกติ และกำลังเดินทางกลับที่พักย่านรามคำแหง แต่เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวก่อน เบื้องต้น คาดการณ์ไว้ 2 ประเด็น คือ เสียหลักล้มเอง หรือมีคู่กรณีมาเฉี่ยวชน ขณะนี้กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียด
สำหรับทางด้านคดี จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ คดีอุบัติเหตุบนทางด่วน สน.ทางด่วน 2 จะเป็นผู้รับผิดชอบ และสน.ดินแดง รับผิดชอบคดีชันสูตรพลิกศพ และจะส่งศพไปชันสูตรเพิ่มเติมที่นิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป