“ศรีสุวรรณ” จี้ เอาผิดผู้ว่าฯ หากเกิดคลัสเตอร์งานเคาท์ดาวน์

"ศรีสุวรรณ" จี้ ศบค.เอาผิดผู้ว่าราชการจังหวัด หากจัดเคาต์ดาวน์แล้วเกิดคลัสเตอร์แพร่เชื้อโควิด-19 ชี้หากนิ่งเฉยจะฟ้องศาลเอาผิด เพราะได้เตือนแล้ว

วันที่ 25 ธ.ค –นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ได้ยืนยันถึงจำนวนการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดโอมิครอนในขณะนี้มีมากกว่า 205 คนไปแล้ว ผนวกกับโอกาสที่เชื้อดังกล่าวจะแพร่กระจายเพิ่มมากขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่มีการเตรียมจัดเฉลิมฉลองกันมากจนอาจจะลืมหรือหย่อนยานมาตรการที่รัฐบาลกำหนดนั้น แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี จะออกมายืนยันว่าการจัดงาน ‘เคาต์ดาวน์ปีใหม่’ จะต้องดำเนินการภายใต้มาตรการ covid free setting อย่างเคร่งครัด โดยจำกัดจำนวนคน และตอกย้ำว่า “ทุกคนต้องร่วมมือกัน ถ้าอยากได้ก็ต้องช่วยกันทำ” นั้น แต่คำพูดของนายกฯ มิได้กำหนดมาตรการการลงโทษสำหรับผู้ที่จัดงานทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ฝ่าฝืนมาตรการดังกล่าว โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด

นายศรีสุวรรณกล่าวอีกว่า หลายจังหวัดที่เตรียมจัดงานเคาต์ดาวน์อย่างยิ่งใหญ่ อาทิ ชลบุรี ภูเก็ต เชียงใหม่ นครราชสีมา อยุธยา ระยอง ฯลฯ ซึ่งบางจังหวัดจะมีคอนเสิร์ตเชิญนักดนตรีจำนวนมากมาเล่นด้วย ก็ยิ่งทำให้เป็นที่หวาดผวาว่าการใช้มาตรการ covid free setting อย่างเคร่งครัดของ ศบค.หรือของนายกฯ จะทำได้แค่ไหน เพราะทุกจังหวัดมีแต่มาตรการ แต่อาจล้มเหลวในทางปฏิบัติได้ เคยมีตัวอย่างของการจัดคอนเสิร์ตที่ควบคุมไม่ได้มาแล้วที่จังหวัดสุรินทร์และจังหวัดเลย สุดท้ายหากการจัดเคาต์ดาวน์แล้วกลายเป็นต้นเหตุของการเกิดคลัสเตอร์โควิด-19 หรือการแพร่ระบาดของโอมิครอนเกิดขึ้น ใครจะรับผิดชอบ เพราะจะเกิดความเสียหายตามมามากมายเหลือคณานับประการ โดยเฉพาะต้องใช้เงินแผ่นดินจำนวนมากไป เพื่อการรักษาและควบคุมการแพร่ระบาดดังกล่าวอีก

นายศรีสุวรรณกล่าวต่อว่า ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงทำหนังสือด่วนถึงนายกรัฐมนตรีและศบค. ให้กำหนดมาตรการลงโทษที่เป็นรูปธรรมเป็นการเร่งด่วน สำหรับผู้ที่จัดงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่เป็นเจ้าภาพจัดงาน ‘เคาต์ดาวน์ปีใหม่ 2565’ นี้ด้วย หากภายหลังการจัดงานปรากฎโดยชัดแจ้งว่ามีการใช้มาตรการที่หย่อนยานจนมีการเกิดคลัสเตอร์โควิด-19 หรือการแพร่ระบาดของโอมิครอนเกิดขึ้นในจังหวัดนั้นๆ และผู้ที่ต้องรับผิดชอบสูงสุดด้วยนั่นคือ ผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นด้วย ซึ่งหาก ศบค.และนายกฯ นิ่งเฉย หากเกิดการแพร่ระบาดขึ้น สมาคมฯคงต้องนำความไปฟ้องศาลเอาผิด เพราะถือว่าได้เตือนและบอกกล่าวกันแล้ว

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ไม่รอด ฉก.ราชมนู จับแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง พบยาบ้าติดตัว จำนวน 14 เม็ด
พาชิมพุทราวังน้ำเขียวผลไม้เศรษฐกิจอำเภอวังน้ำเขียวเตือนระวังพุทราต่างถิ่นยืนยันของแท้รสชาติหวานกรอบอร่อยกว่า
“ธนกร” เชื่อการเมืองหลัง 22 พ.ย.นี้ประเทศต้องเดินหน้าต่อ ขอทุกฝ่ายอย่าคาดเดาจนก้าวล่วงอำนาจศาลรธน.
อุณหภูมิกลับมาลดลง ยอดภูเรือหนาวมาก เช้านี้อุณหภูมิต่ำสุด 9 องศา
พล.ต.ท.ธนายุตม์ ร่วมเป็นประธาน พิธีวันคล้ายวันสถาปนากองบินตำรวจ ครบรอบ 55 ปี ประจำปี 2567 พร้อมเป็นประธานในพิธีมอบเครื่องหมายแสดงความสามารถในการบินกิตติมศักดิ์
"คนกรุงฯ" โวยสนั่น ปมดราม่า กทม.ทดลองวางกรวยทำเลนบล็อกจักรยาน ซอยสุขุมวิท 39 ทำจราจรอัมพาต
"ราชกิจจาฯ" เผยแพร่ประกาศ แต่งตั้ง "สาโรจน์ พึงรำพรรณ" เป็นเลขาธิการป.ป.ช.
สวนสัตว์ขอนแก่น ประกาศรายชื่อ "4 ลูกสิงโต" หลังเปิดให้ร่วมโหวต
"เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี" ชี้แจงพระที่ร่วมมือกับหมอผี รวมหัวตุ๋นแม่ลูก 4 แสน ถูกจับสึกแล้ว
เกิดเพลิงไหม้ "ร้านรับซื้อของเก่า" ย่านทุ่งครุ ต้องระดมรถน้ำกว่า 10 คัน เข้าระงับเหตุ หวิดวอดทั้งหลัง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น