“ดีอีเอส”เปิดตัวเลขคนไทย แชร์ข่าวปลอมจำนวนมากตั้งศูนย์ANSCOPสตช.เอาผิดมือปล่อยข่าว

“ชัยวุฒิ” เปิดสถิติศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม พบผู้แชร์ข่าวปลอมมากกว่า 23 ล้านคน ขอบคุณสื่อฯ รณรงค์ช่วยต่อต้านข่าวปลอม พร้อมตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมและความมั่นคงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบเอาผิดมือโพสต์ผิดกฎหมาย

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า จากการติดตามข่าวสาร และการสนทนาบนโลกออนไลน์เกี่ยวกับข่าวปลอม ตั้งแต่จัดตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมวันที่ 1 พ.ย 62 ถึง 23 ธ.ค 64 มีจำนวน ผู้โพสต์ข่าวปลอม 1,167,543 คน และจำนวนผู้แชร์ข่าวปลอม 23,785,145 คน โดยช่วงอายุของผู้โพสต์และแชร์มากที่สุด คือ อายุ 18-24 ปี คิดเป็นสัดส่วน 54.5% ขณะที่อายุ 55-64 ปี มีพฤติกรรมแพร่กระจายข่าวปลอมต่ำสุด คิดเป็น 0.1%

สำหรับกลุ่มอาชีพที่สนใจประเด็นข่าวปลอมมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ กลุ่มผู้สื่อข่าว คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 16.7% เนื่องมาจากเป็นกลุ่มอาชีพที่ประชาชนให้ความสนใจ และเกิดความเชื่อถือในการเผยแพร่มากที่สุด รองลงมา คือ กลุ่มผู้จัดการ/ผู้บริหาร 9.3% และผู้ประกอบกิจการต่างๆ 8%

ขณะที่ กลุ่มอาชีพของผู้แชร์ข่าวที่เข้าข่ายเป็นข่าวปลอมมากที่สุด 3 อ้นดับแรก ได้แก่ กลุ่มอาชีพคุณครู อาจารย์ 14.0% ตามมาด้วย กลุ่มนักเรียน นักศึกษา และกลุ่มอาชีพช่างภาพ 9.4% และกลุ่มอาชีพวิศวกร 7.0%

“ต้องขอขอบคุณสำนักข่าว และอินฟลูเอนเซอร์หลายราย ที่สนับสนุนการทำงานของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ในการสร้างการรับรู้และเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องไปยังประชาชน และสาธารณะในวงกว้างอย่างต่อเนื่อง”

โดยในรอบปี 64 มีรายชื่อสำนักข่าว และ Influencer ที่ช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข่าวจากศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมมากสุด 10 อันดับแรก ดังนี้ ไทยรัฐ ,จส.100 ,มติชน, บางกอกโพสต์ FM91 Trafficpro ข่าวจริงประเทศไทย ฐานเศรษฐกิจ News.ch 7 โพสต์ทูเดย์ และคมชัดลึก ตามลำดับ

ด้านนางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ กล่าวว่า ในปี 65 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม จะมุ่งเน้นกิจกรรมให้ประชาชนมีส่วนร่วม โดยครอบคลุมตั้งแต่ระดับเยาวชน จนถึงเครือข่ายภาคประชาชน โดยกลุ่มเป้าหมายนักเรียน นักศึกษา ขณะที่มีการจัดตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมและความมั่นคงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ANSCOP เพื่อให้การควบคุม กำกับดูแล สั่งการ และบริหารราชการ ให้เป็นเอกภาพ ภายใต้ยุทธศาสตร์และมาตรการบังคับใช้กฎหมายที่ชัดเจน พร้อมกันนี้ ได้กำหนดให้มีการจัดตั้ง ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมและความมั่นคงของกองบัญชาการตำรวจนครบาลและตำรวจภูธรภาค 1-9 เพื่อให้การปฏิบัติงานครอบคลุมพื้นที่และสามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาข่าวและข้อมูลปลอมได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมและความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ANSCOP มีการบูรณาการประสานงานกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาข่าวและข้อมูลปลอมอย่างต่อเนื่อง โดยมีศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมแห่งประเทศไทย หรือ AFNC รับผิดชอบในการรับเรื่อง ติดตาม ตรวจสอบข้อมูลข่าวที่อาจมีลักษณะปลอมหรือบิดเบือนอยู่ตลอดเวลา มีการประสานงานกับศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมทุกส่วนราชการ หรือหน่วยงานของรัฐ เพื่อตรวจสอบและยืนยันข่าว เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวปลอมหรือข่าวบิดเบือนแล้ว ก็จะส่งต่อข้อมูลดังกล่าวมายัง

ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม และความมั่นคงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ANSCOP เพื่อดำเนินการพิจารณาความผิดตามหลักกฎหมายที่กำหนดไว้ อาทิ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ประมวลกฎหมายอาญา และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง หากเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายจะดำเนินการพิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำผิด เมื่อผู้เสียหายได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวน ติดตามจับกุม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

โดยในรอบ 8 เดือน ( 1 พ.ค. จนถึง ปัจจุบัน) พบว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมแห่งประเทศไทย หรือ AFNC ได้ส่งโพสต์ที่ตรวจพบและตรวจสอบแล้วได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวปลอมหรือข่าวบิดเบือน จำนวน 1193 ราย (Urls) มีโพสต์ที่เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการพิสูจน์ทราบผู้กระทำผิดแล้ว จำนวน 287 ราย (Urls) ซึ่งมีผู้เสียหายได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดแล้ว จำนวน 53 คดี ซึ่งอยู่ในระหว่างสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน และทำสำนวนคดี ส่งฟ้องตามกระบวน
การยุติธรรมต่อไป ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ดำเนินการตักเตือน ให้แก้ไขข่าวหรือลบโพสต์ จำนวน 36 ราย ตามที่กฎหมายให้อำนาจเจ้าหน้าที่จะทำได้ในกรณีข่าวปลอมหรือข่าวบิดเบือน ที่เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคติดต่อโควิด 19 ที่ไม่รุนแรง อีกทั้งยังได้ขึ้นบัญชี ที่ต้องเฝ้าติดตามผู้ที่มีพฤติการณ์โพสต์ข่าวปลอมหรือข่าวบิดเบือน จำนวน 906 ราย (Urls)

หากพบมีการโพสต์ข่าวหรือข้อมูลปลอม ที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมายทันที ในขณะเดียวกันผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังมีนโยบายให้จัดตั้งศูนย์วิเคราะห์ข่าวของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. เพื่อปบัติการชี้แจงและตอบโต้ข้อมูลข่าวสารเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ เพื่อให้หยุดเคลื่อนไหวหรือลบโพสต์ ที่ไม่ถูกต้องหรือเข้าข่ายผิดกฎหมาย โดยการเข้าไป ติดต่อด้วยความสุภาพ แจ้งข้อมูลที่ถูกต้องจากหน่วยงานผู้รับผิดชอบ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่กระจายของข่าว ที่อาจปลอมหรือบิดเบือน ไปบนสื่อสังคมออนไลน์ในวงกว้าง โดยที่ผ่านมามีผลการดำเนินการแล้ว จำนวน 423 ราย (Urls) ทำให้ผู้โพสต์หยุดเคลื่อนไหวหรือมีการลบโพสต์ดังกล่าวขอฝากข้อคิดสำหรับพี่น้องประชาชน ในการใช้สื่อสังคมออนไลน์ว่า ขอให้ท่านระลึกอยู่ตลอดเวลา เมื่อใช้สื่ออนไลน์ “ไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน” ทุกท่านจะปลอดภัยจากการถูกฉ้อโกง หลอกลวง บนสื่อสังคมออนไลน์อย่างแน่นอน

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สุดช้ำ หลังคำพิพากษาศาลฎีกา พ่อแม่ น้องหลิว 8 ปี ที่รอคอย โอดครวญ คงตายก่อนเยียวยา ไม่เคยได้รับการเยียวยา จากจำเลย หลังศาลฎีกา ตัดสิน จำคุกจำเลย ตลอดชีวิต คดี ผอ.โรงเรียน ฆาตกรรมลูกสาว สาวโรงงาน
พ่อเลี้ยงหื่น! มอมเหล้าลูกเลี้ยง วัย 16 ปี จนขาดสติก่อน ลวนลาม ขณะแม่อยู่ด้วยก็ไม่เว้น เครียดหนักเคยคิดสั้นฆ่าตัวตาย สุดอึ้ง!! เอาเรื่องไปบอกแม่ กลับไม่เชื่อ
พล.ต.ท.ธนายุตม์ ยื่นสำนวนคดี “แอม ไซยาไนด์” ให้อัยการด้วยตัวเอง 14 รายการ
ราชกิจจาฯเผยแพร่ พระบรมราชโองการ ประกาศ ให้ชื่อใหม่ "เจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี"
“แม่สามารถ” เครียดจัด ผูกคอคาห้องขังดีเอสไอ จนท.ช่วยระทึก ห่วงลูกจะอดข้าวประท้วง ขอความเป็นธรรม
เคราะห์ร้าย ! หนุ่มวัย 18 ปี ขี่จยย. ถูกกันสาดหล่นใส่หัวเจ็บสาหัส
ยูเครนลั่นไม่ทำลายทุ่นระเบิดอ้างถูกรัสเซียรุกราน
ผบ.ตร.สั่งตรวจสอบดำเนินคดี “กลุ่มน้ำไม่อาบ” ทุกมิติ พร้อมเอาผิดตามหลักฐานคลิปที่ปรากฏ
ขุนเขา ‘ฮว่าซาน’ ่ของจีนสวยสะกดยามห่มหิมะขาว
ทหารพรานจัดกำลังตรวจค้นเก็บกู้บ่วงดักสัตว์ป่า

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น