วันนี้ (28 ธ.ค.) ที่ สน.ห้วยขวาง กลุ่มผู้เสียหายจากกรณีเข้าใช้บริการทำศัยกรรมใบหน้าที่คลีนิก ย่านห้วยขวาง รวม 7 ราย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน โดยมีทั้งผู้ที่รับบริการจากหมอจริงและหมอปลอมที่ตกเป็นผู้ต้องหาไปก่อนหน้านี้ หลังรับบริการเสริมความงามไปเมื่อวันที่ 13 ธันความคม แล้วมีอาการผิดปกติบนใบหน้า
โดยตัวแทนผู้เสียหาย ระบุว่า ผู้ที่ทำการร้อยไหมให้คือหมอปลอม และหลังร้อยไหมใบหน้าทั้ง 2 ข้างมีอาการปวด ไวต่อความรู้สึก และคล้ายมีไฟฟ้าสถิตอยู่ตลอดเวลา หลังจากนั้น 1 วัน เริ่มมีไข้ วิงเวียนศีรษะ จึงไปพบแพทย์ที่สถานพยาบาลทั่วไป ผลตรวจคือ เส้นประสาทบนใบหน้าอักเสบ แพทย์แจ้งไม่สามารถรักษาได้ในทันที เนื่องจากเกิดจากอาการร้อยไหม ต้องรอให้ไหมละลายและเส้นประสาทได้ฟื้นตัว ซึ่งอาจต้องใช้เวลาเป็นปี ส่วนตัวได้ซื้อโปรร้อยไหมไป 4444 แต่จนถึงขณะนี้เสียเงินค่ารักษาไปกับอาการนี้แล้วกว่า 6 พันบาท และยังต้องรักษาอยู่ต่อเนื่องรวมถึงต้องรอให้สารและอาการหายไปเอง ซึ่งต้องใช้เวลานาน
นอกจากนี้ยังพบว่าเวลามีการไลฟ์สดจะมีการนำหมอมาโชว์ว่าคนนี้นะที่จะเป็นคนทำศัลยกรรมให้เรา ทำให้เราเชื่อว่าหมอคนนี้นะจะเป็นคนทำให้เราแต่พอไปถึงมันไม่ใช่หมอที่เอามาโชว์เราตอนไลฟ์สด มันกลายเป็นอีกคนหนึ่งแล้วพอเราเข้าไปถึงห้องที่ต้องทำการร้อยไหมมันก็ไม่ทันแล้ว ขณะที่ผู้เสียหายอีกคน เข้ารับบริการร้อยไหมและโบท็อกซ์ โดยรับบริการกับหมอจริงแต่ก็เกิดอาการผิดปกติกับใบหน้า โดยใบหน้ามีอาการเกร็งและใบหน้า 2 ข้างยกไม่เท่ากัน อีกทั้งบนใบหน้าบริเวณโหนกแก้มขวา พบปมไหมนูนขึ้นเห็นชัดเจน
ขณะเดียวกัน ได้มีตัวแทนจากคลินิก เข้ามาสังเกตการณ์และรอพูดคุยกับผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความ ที่สน.ห้วยขวางด้วย นางสาวกัญญ์ภณิศชา มานะสันติเลิศ ตัวแทนคลินิก ยอมรับว่า ระบบการตอบกลับลูกค้าในระยะแรกล่าช้า แต่ไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งวันนี้ทางคลินิกได้สร้างช่องทางออนไลน์ ให้ลูกค้าผู้ใช้บริการเข้าร้องทุกข์กับคลินิกโดยตรง จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จะพิจารณาติดต่อพูดคุย สอบถาม รายละเอียด เพื่อพิจารณาการชดเชยเยียวยาตามความเหมาะสม
ขณะที่สื่อพยายามสอบถามถึงอำนาจการตัดสินใจต่างๆว่าต้องมีคณะกรรมการหรือไม่หรือว่าเป็นอำนาจของคุณพิมคนเดียว และยังถามไปถึงการดูแลค่ารักษาและค่าเยีวยาจิตใจเป็นอย่างไร แต่ทางนางสาวกัญญ์ภณิศชา ไม่สามารถตอบคำถามสื่อได้และพยายามหลีกเลี่ยงคำตอบตลอดเวลา สำหรับวันนี้ ที่ สน.ห้วยขวาง พบว่า มีผู้เสียหายทะยอยเข้าแจ้งความเอาผิดคลินิก ในกรณีคล้ายกัน อย่างน้อย 7 คน