อัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค ข้อความว่า “อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี” เลขาธิการพรรคกล้า ประกาศลงเลือกตั้งซ่อม เขตหลักสี่-จตุจักร โดยมีสื่อหลายสำนักออกข่าวว่า ประชาธิปัตย์จะไม่ส่งคนของตนลงเลือกตั้ง แต่จะหนุนอรรถวิชช์ ข่าวนี้ประชาธิปัตย์ หนุนอรรถวิชช์ บอกอะไรกันเรา เขตหลักสี่-จตุจักร เป็นเขตของฐานเสียงเดิมของประชาธิปัตย์ ก่อนที่จะถูกกระแสเลือกพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีกลบไป จนสิระ เจนจาคะ ซึ่งเคยลงเลือกตั้งมาก่อนหน้านั้นและได้คะแนนเสียงมาแค่หลักพันกลายเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งเมื่อย้ายมาลงในนามพลังประชารัฐเมื่อคราวที่ผ่านมา
นายอัษฎางค์ กล่าวอีกว่า ตนจึงเกิดคำถามในใจว่า การที่ประชาธิปไตยหนุนอรรถวิชช์ บอกอะไรกันเรา คำตอบที่เกิดจากใจถามใจของตนตอบว่า คุณกรณ์และคุณอรรถวิชช์ ลูกหม้อเก่าประชาธิปัตย์ยังคงจับมือเป็นแนวร่วมเดียวกับประชาธิปัตย์ หรืออาจจะพูดเป็นภาษาไทยอีกแบบได้ว่า พรรคกล้าเป็นพรรคสาขาหรือไม่ก็เป็นพรรคพันธมิตรของประชาธิปัตย์ หรือไม่ หลังจาก สิระ เจนจาคะ หลุดจากการเป็น สส.ก็มีข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐจะส่ง ภรรยาของสิระลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นตัวเต็งในทันที เพราะมีฐานเสียงเดิมของสิระและพรรคพลังประชารัฐซึ่งชนะการเลือกตั้งคราวที่ผ่านมาอยู่
นายอัษฎางค์ กล่าวอีกว่า ต่อมาเมื่อ นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี นำทีม เปิดตัว “พันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์” ซึ่งก็เคยอยู่ประชาธิปัตย์มาก่อน ลงสู้ศึกเลือกตั้งซ่อม สนามเลือกตั้งซ้อมก็เริ่มร้อนแรงขึ้นมาทันที เพราะนี่คือการเปิดตัวผู้สมัครคนแรกของไทยภักดี โดยพรรคไทยภักดีรู้ใจฐานเสียงผู้สนับสนุนของพรรค ซึ่งสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ด้วยการประกาศเสียงดังฟังชัดเจนว่า “ถ้าได้รับเลือกเป็น ส.ส. ก็พร้อมสนับสนุน พลเอก ประยุทธ์ โดยที่ไม่ต้องใช้กล้วยในการขอให้สนับสนุนเหมือนนักการเมืองที่เคยทำมา แต่ใช้หัวใจในการสนับสนุน ขอแค่ทุกอย่างทำเพื่อประชาชน”
นายอัษฏางค์ กล่าวอีกว่า พรรคกล้า กล้าส่งคนระดับเลขาธิการพรรคลงรับสมัครเลือกตั้งซ้อมเป็น สส.เขต ยิ่งเพิ่มความร้อนแรงให้กับการเลือกตั้งซ้อมในครั้งนี้ ดังนั้น ในการเลือกตั้งซ้อมครั้งนี้พรรคพลังประชารัฐต้องชนะให้ได้เพราะศักดิ์ศรีขอเจ้าของพื้นที่เดิม ส่วนไทยภักดีก็ต้องชนะให้ได้เช่นกัน เพราะนี่คือการเปิดตัวในครั้งแรก อะไรที่มันเป็นครั้งแรก สำคัญเสมอ โดยเฉพาะพรรคกล้าผมว่าอาการหนักสุด เพราะนอกจากส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งครั้งแรกแล้ว ยังส่งตัวเป้งซึ่งเป็นเบอร์ 2 ของพรรคลงมาเอง สมชื่อพรรคกล้าจริงๆ แบบนี้แพ้ไม่ได้เด็ดขาดยิ่งกว่าใคร ผมขอย้ำเลยว่า เกมนี้ใครแพ้ได้ แต่พรรคกล้าและอรรถวิชช์ แพ้ไม่ได้เด็ดขาด เพราะนี่คือการหงายไพ่ใบใหญ่ยักษ์ที่สุดในเกมนี้
นายอัษฏางค์ กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ อาจดูเหมือนเป็นเลือกตั้งเล็กๆ แต่ผลของการเลือกตั้งในครั้งนี้ไม่เล็กแน่นอนโดยเฉพาะกับพรรคไทยภักดีและพรรคกล้า ซึ่งเป็นการส่งผู้สมัครลงสนามเลือกตั้งผู้แทนราษฏรเป็นครั้งแรกและไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกหัวหรือก้อย ย่อมมี ความสำคัญต่อการประเมินสถานการณ์และการวางแผนกลยุทธ์ในการเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
“ ผมเปิดใจพูดตรงๆ เลยนะ ถ้าผมเป็นคนในเขตหลักสี่-จตุจักร ผมจะหนักใจและคิดหนักมากๆ เลยว่าจะเลือกใคร และผมจะขอเปิดใจพูดตรงๆ เลยว่า ถ้าผมอยู่ในเขตหลักสี่-จตุจักร ผมจะเลือกพรรคหมอรงค์ภักดีร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้า…พรรคกล้าไม่ส่งอรรถวิชช์ ผมเป็นคนที่ยึดหลักเลือกพรรคไม่เลือกคน แต่ในขณะเดียวกันผมก็ไม่ได้เป็นคนที่ไม่รู้จักพลิกแพลงตามสถานการณ์ โดยบางสถานการณ์ผมก็เลือกคนไม่เลือกพรรค และตอนนี้พรรคกล้าทำผมหนักใจมาก เพราะอรรถวิชช์ คือตัวเป้ง จนตอนนี้ผมลังเลและยังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกพรรค(ไทยภักดี) หรือเลือกคน(อรรถวิชช์ ) ถ้าผมมีโอกาสพูดกับพี่หมอรงค์ ผมจะขอบังอาจกราบเรียนท่านว่า พรรคกล้ามีคนระดับตัวเป้งอยู่ 2 คน คือคุณการณ์และคุณอรรถวิชช์ และพรรคกล้า กล้าส่งอรรถวิชช์ สมชื่อพรรคกล้าจริงๆ เพราะฉะนั้นพรรคไทยภักดีจะต้องมีหรือต้องสร้างตัวเป้งขึ้นมาเพิ่มเพื่อต่อกรกับคุณกรณ์หรือพรรคอื่นๆเพราะไทยภักดีมีตัวเป้งอยู่คนเดียวคือพี่หมอรงค์ ยังพอมีเวลาสำหรับเตรียมการแข่งขันในสนามเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง” นายอัษฏางค์ กล่าว
นายอัษฏางค์ กล่าวอีกว่า ตนเห็นอาจารย์บอย “ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์” กับพี่หมอรงค์ ไปไหนมาไหนเดินสายให้ข้อเท็จจริงกับประชาชนอยู่บ่อยๆ ถ้า อาจารย์บอย ตัดสินใจจะช่วยชาติลงเล่นการเมืองหรือพี่หมอรงค์ เกลี้ยกล่อม อาจารย์บอยลงเล่นการเมืองได้ สำเร็จ อาจารย์บอยคนนี้แหละที่จะเป็นตัวเป้ง ที่โคตรห้าวเป้งของไทยภักดี ถ้าไทยภักดีมี อาจารย์บอย อานนท์เมื่อไหร่ อรรถวิชช์ ก็อรรถวิชช์ ขนาดตัวโคตรเป้งอย่างธนาธร-ปิยบุตรยังไม่กล้ากับอาจารย์บอย อานนท์ เลย ใครๆ ก็รู้ ขอบอก แล้วที่จะเป็นการพีคของพีคยิ่งขึ้นไปถึงขีดสุดถ้าไทยภักดีมีชื่อ “ท่านทูตพี่นิค นริศโรจน์ เฟื่องระบิล, ดร.นิว ศุภณัฐ อภิญญาณ, ศาตรา โตอ่อน” ฯลฯเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งในนามไทยภักดี จะการันตีความสำเร็จของพรรคและความพึ่งพอใจของผู้สนับสนุนไทยพรรคดีของพี่หมอรงค์แห่งไทยภักดี for sure อย่างถึงที่สุด
นายอัษฏางค์ กล่าวอีกว่าสุดท้ายท้ายสุด อาจมีคนสงสัยว่า ยังไม่เห็นพูดถึงผู้สมัครพรรคใหญ่ของคนรุ่นใหม่อีกพรรคเลย ผมขอบอกว่าคนนั้นคงไม่ต้องพูดถึง เพชรปลอม ไม่มีค่าพอที่จะพูดถึง พรรคปลอมๆ ของนักการเมืองปลอมๆ ก็ย่อมมีแต่เพชรปลอมเป็นธรรมดา ปล่อยให้ผู้นิยมของปลอมเขาอวยกันไป อวยเพชรปลอมตัวเป้งเต็งหนึ่งของ Metaverse ในโลกเสมือนจริงกันไปตามสบาย ถ้าเพชรปลอมชนะ ร้อยผมขอแค่ขี้หมากองเดียว จะเอาไปปาใส่หน้าคนขอขี้หมากองเดียว