เวลา 12.30 น. วันนี้(29 ธ.ค.) ศูนย์แถลงข่าว กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการอัพเดทเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด19 สายพันธุ์โอมิครอน และการเตรียมการป้องกันตนเองช่วงเทศกาลปีใหม่ โดย นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงสถานการณ์โควิดสายพันธุ์ “โอไมครอน” ว่า ขณะนี้พบโอไมครอนอย่างน้อย 108 ประเทศ ในสหรัฐครบทุกรัฐแล้ว และการติดเชื้อก็ทะยานเรื่อยๆ ส่วนสายพันธุ์ย่อยยังเหมือนเดิม ส่วนใหญ่ยังเป็น BA.1 ซึ่งเป็นตัวดั้งเดิม ส่วนที่กลายพันธุ์ BA.2 และ BA.3 มีไม่มาก อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศไทยได้ตรวจ 8 พันตัวอย่าง วันนี้พบโอไมครอนสะสม 740 ราย ซึ่งภาพรวมสะสมมาตั้งแต่ต้นก็ประมาณ 8-9% พบเกือบทุกเขตสุขภาพ ยกเว้นเขตสุขภาพที่ 2 อย่างเดียว คือ พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ สุโขทัย และตาก แต่เขตอื่นๆพบมากน้อยแตกต่างกันไป
“โดยพบมากที่สุด กรุงเทพมหานคร เนื่องจากตรวจในคนเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ โดยลงเครื่องที่สุวรรณภูมิ และต้องกักตัวรอผลตรวจในกรุงเทพฯ รองลงมาเขต 7 คือ ขอนแก่น มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ ซึ่งมีคลัสเตอร์ใหญ่เกิดขึ้น อีกเขตคือ เขตสุขภาพที่ 11 เป็นภาคใต้ฝั่งอันดามัน อย่างภูเก็ต สมุย” นพ.ศุภกิจ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สัดส่วนโอไมครอนเพิ่มค่อนข้างเร็ว แม้ตัวเลขจะพบ 66% แต่ไม่ได้แปลว่าวันนี้มีโอไมครอนอยู่ตามนั้น เพราะตัวอย่างที่มาส่งเราหมายตาแล้ว เนื่องจากเป็นกลุ่มเดินทางมาจากต่างประเทศ หรือกลุ่มที่มีประวัติสัมผัสกับคนมาจากต่างประเทศ ดังนั้น โอกาสเป็นโอไมครอนจะสูงมากกว่า ดังนั้น ใน 2 วันที่ผ่านมาที่มีการตรวจพบสายพันธุ์นี้ในวันที่ 27-28 ธ.ค. ประมาณ 200 กว่าราย ในขณะที่เรามีผู้ป่วยภาพรวมของประเทศ 2 วันรวมกันราว 5 พันราย คิดเป็น 5-6% จึงต้องย้ำว่า พื้นที่ของประเทศไทยส่วนใหญ่ยังเป็นเดลตาอยู่ ไม่ใช่โอไมครอน
ทั้งนี้ ผู้ป่วยโอไมครอนส่วนใหญ่ยังมาจากต่างประเทศ ส่วนในประเทศยังพบมาจากการสัมผัสผู้ที่เดินทางเข้ามา โดยมี 19 จังหวัดที่พบในประเทศไทย ซึ่งผูกโยงกับคนมาจากต่างประเทศทั้งสิ้น
สรุปในผู้ติดเชื้อโอมิครอน ล่าสุด 740 ราย จากต่างประเทศ 489 ราย และในประเทศ 251 รายกระจาย 19 จังหวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายละเอียดเคสสายพันธุ์โอไมครอนจากกลุ่มในประเทศมี 19 จังหวัดตามเขตสุขภาพต่างๆ ดังนี้
เขตสุขภาพที่ 1 ประกอบด้วย เชียงใหม่ 1 ราย มีประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อโอไมครอน และลำพูน 4 ราย สัมผัสเคสยืนยัน คลัสเตอร์กาฬสินธุ์
เขตสุขภาพที่ 7 ประกอบด้วย กาฬสินธุ์ 119 ราย ขอนแก่น 12 ราย มหาสารคาม 42 ราย ร้อยเอ็ด 50 ราย เป็นพนักงานเสริฟและคนที่มารับประทานอาหารสถานที่เดียวกัน ผู้ติดเชื้อที่กลับจากเบลเยียม สัมผัสเคสยืนยัน คลัสเตอร์กาฬสินธุ์
เขตสุขภาพที่ 8 ประกอบด้วย อุดรธานี 3 ราย สัมผัสผู้ติดเชื้อโอไมครอนที่เดินทางกลับจากเบลเยี่ยม จ.เลย 2 ราย สัมผัสเคสยืนยันโอไมครอนที่กทม. หนองคาย 2 ราย สัมผัสเคสยืนยัน และหนองบัวลำภู 1 ราย สัมผัสเคสยืนยัน คลัสเตอร์กาฬสินธุ์
เขตสุขภาพที่ 9 ประกอบด้วย สุรินทร์ 1 ราย สัมผัสผู้ติดเชื้อโอไมครอนที่เดินทางกลับจากเดนมาร์ก และชัยภูมิ 1 ราย เดินทางไปพื้นที่เสี่ยง จ.ชลบุรี และกาฬสินธุ์
เขตสุขภาพที่ 10 ประกอบด้วย อุบลราชธานี 3 ราย กลับจากพื้นที่เสี่ยงไปสังสรรค์ร้านดื่มกลางคืน จ.มุกดาหาร 1 ราย กลับจากพื้นที่เสี่ยงไปสังสรรค์ร้านดื่มกลางคืน และยโสธร 1 ราย สัมผัสเคสยืนยันคลัสเตอร์กาฬสินธุ์
เขตสุขภาพที่ 11 ประกอบด้วย ภูเก็ต 2 ราย กระบี่ 1 ราย ประวัติ HRC สัมผัสผู้ติดเชื้อโอไมครอน
เขตสุขภาพที่ 12 ปัตตานี 3 ราย สัมผัสผู้ติดเชื้อเดินทางมาจากการแสวงบุญ ซาอุฯ
เขตสุขภาพที่ 13 กรุงเทพฯ 2 ราย สัมผัสผู้ติดเชื้อทีเป็นสามี เป็นนักบินมาจากไนจีเรีย และเจ้าหน้าที่รัฐ เดินทางไปประชุมหลายจังหวัด