ทบ.แจงเหตุผล ย้ายประชาชนออกจาก สนามฝึกที่ประจวบฯ

ทบ.ระบุเหตุผลย้ายประชาชนออกจากสนามฝึกที่ประจวบฯ ห่วงความปลอดภัย หลังพบบุกรุกเข้าไปทำการเกษตรและสิ่งปลูกสร้าง ย้ำดำเนินการตามแนวทางการแก้ปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ

เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ตามที่มีการเสนอข่าวกรณีศูนย์การทหารราบแจ้งให้ประชาชนในต.บึงนคร อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ย้ายออกจากพื้นที่ฝึกของหน่วยและมีการร้องขอให้ชะลอเรื่องดังกล่าวนั้น กองทัพบกดำรงการฝึกทางทหารเพื่อให้สามารถปฏิบัติภารกิจ
ตามบทบาทหน้าที่ โดยมีพื้นที่ฝึกในระดับหน่วย และพื้นที่ฝึกรวม คือ ศูนย์ฝึกทางยุทธวิธีกองทัพบก สำหรับพื้นที่ฝึกของศูนย์การทหารราบกำลังถูกพัฒนาและยกระดับมาตรฐานให้เป็นศูนย์ฝึกทางยุทธวิธีกองทัพบกแห่งที่ 2 เพื่อใช้ในการฝึกทั้งในระดับหน่วย ระดับกองทัพบก การฝึกร่วมผสมเหล่าทัพและมิตรประเทศต่อไป ศูนย์ฝึกแห่งนี้ได้ถูกแบ่งพื้นที่ไว้เป็น 2 ลักษณะ คือ สนามฝึกทั่วไป และสนามฝึกวิกฤติ (พื้นที่ดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง)และกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการตามแผนงาน ครอบคลุมพื้นที่ อ.หัวหิน และ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ กรณีการแจ้งให้ประชาชนย้ายออกดังกล่าว อยู่ในพื้นที่ บ.ภูหลวง และ บ.หนองหินใน ต.บึงนคร อ.หัวหิน ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของสนามฝึกวิกฤติ ปัจจุบันมีประชาชนจำนวนหนึ่งรุกเข้าไปทำการเกษตรและสิ่งปลูกสร้าง โดยในอนาคตหากมีการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริงอาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อบุคคลและสิ่งปลูกสร้างในบริเวณดังกล่าว ศูนย์การทหารราบจึงได้เข้าดำเนินการตามขั้นตอนในการแก้ไขปัญหาการบุกรุที่ดินของทางราชการ โดยเมื่อเดือน ก.ค.-ส.ค. 64 ได้มีการพบปะและชี้แจงข้อมูลให้กับผู้นำชุมชน ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ รวมทั้งได้ทำหนังสือแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและจัดการประชุมชี้แจงร่วมกับฝ่ายปกครอง ณ ที่ว่าการอำเภอหัวหิน ถึงความไม่ถูกต้องของการเข้ามาใช้ประโยชน์ที่ดินของทางราชการ และความจำเป็นในการขอให้ย้ายออกจากพื้นที่สนามฝึก ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการแจ้งเตือนให้เตรียมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง คอกสัตว์เลี้ยงออกจากพื้นที่เป็นรายบุคคล ส่วนพืชผลทางการเกษตรอนุโลมให้เก็บเกี่ยวผลผลิตจนแล้วเสร็จ

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาที่ดินราชพัสดุซึ่งศูนย์การทหารราบใช้ประโยชน์เป็นพื้นที่ฝึก ได้ถูกประชาชนเข้ามาใช้พื้นที่ทั้งด้านการเกษตรและสิ่งปลูกสร้าง โดยหน่วยทหารได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนการแก้ปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ได้แก่ การพบปะ การเจรจา ใช้กลไกบริหารที่ดินระดับจังหวัด รวมถึงใช้กลไกทางกฎหมายต่อการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา อาศัยความร่วมมือ ต้องใช้ความเข้าใจก่อนดำเนินการตามกฎหมาย กองทัพบกตระหนักดีในเรื่องดังกล่าว แต่มีความจำเป็นที่จะต้องบริหารจัดการที่ดินของทางราชการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการขอใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุ ซึ่งทุกขั้นตอนในการแก้ปัญหาได้พิจารณาให้เกิดผลกระทบต่อผู้บุกรุกที่ดินของทางราชการให้น้อยที่สุดภายใต้กรอบของกฎหมาย เพราะตระหนักดีว่าบางพื้นที่ประชาชนมีความเดือดร้อนในเรื่องที่อยู่อาศัยและพื้นที่ทำกิน แต่ถ้าเป็นการบุกรุกพื้นที่ฝึกที่มีการใช้กระสุนจริง จำเป็นต้องให้ย้ายออกจากพื้นที่ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยเป็นสำคัญ

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

วธ. ปักหมุด ยลวิถีตาลบ้านถ้ำรงค์เมืองเพชร เปิดสุดยอดชุมชนต้นแบบ "เที่ยวชุมชน ยลวิถี"
แห่ชื่นชม ขบวนพาเหรดดอกไม้ไทย ร่วมงาน Bloemencorso 2025 เนเธอร์แลนด์
"ชัชชาติ" ยืนยันยอดผู้เสียชีวิต "ตึกสตง. ถล่ม 35 ราย เร่งค้นหาอีก 59 ผู้สูญหาย
"กรมบัญชีกลาง" แจงปมถูกกล่าวอ้างชนะโครงการ "ตึกสตง." เพราะรู้ราคาประมูล ไม่เป็นความจริง ย้ำมีการเข้ารหัส 2 ชั้น เก็บข้อมูลในบล็อกเชน
สุดยิ่งใหญ่! สวนนงนุชพัทยานำทีมไทยร่วมโชว์ขบวนพาเหรดดอกไม้ งาน Bloemencorso Bollenstreek ที่เนเธอร์แลนด์ นักท่องเที่ยวแห่ถ่ายรูปคึกคัก
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ชวนเที่ยวสงกรานต์ ต้อนรับปีใหม่ไทย ร่วมสืบสานประเพณีในธีมงานวัดและชมความน่ารักของสัตว์นานาชนิด
"คนกรุงฯ" เห็นใจเอกชนแบกภาระค่าใช้จ่าย ฝากกทม.เร่งจ่ายหนี้ กังวลถ้ารถไฟฟ้าสีเขียวหยุดวิ่ง กระทบชีวิตหนักแน่
"DSI" อัปเดต คดีนอมินีจีนสร้างตึกสตง.ถล่ม ลุยต่อตรวจสอบเส้นทางเงิน-เลี่ยงภาษี
สถานีขนส่งอุทัยฯคึกคัก ปชช.แห่ซื้อตั๋วเดินทางกลับภูมิลำเนา รถทัวร์-รถตู้ ถูกจองเต็มเกือบทุกเที่ยว
จนท.เตรียมเจาะแผ่นปูนเชื่อมฐาน ”ตึกสตง.“ จุดพบแสงมือถือ ยังมีความหวังเจอผู้รอดชีวิต

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น