เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระบรมราชโองการ พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. 2555 พ.ศ. 2564 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ไว้ ณ วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2564 เป็นปีที่ 6 ในรัชกาลปัจจุบัน โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พระราชกำหนดนี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 26 ประกอบกับมาตรา 28 มาตรา 32 และมาตรา 33 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
เหตุผลและความจำเป็นในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามพระราชกำหนดนี้ เพื่อให้การควบคุมการใช้สารต้องห้ามและวิธีการต้องห้ามทางการกีฬามีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับมาตรฐานสากลตามหลักการที่ระบุไว้ในอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการต่อต้านการใช้สารต้องห้ามในการกีฬา ซึ่งการตราพระราชกำหนดนี้สอดคล้องกับเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในมาตรา 26 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว
ทั้งนี้ ในช่วงท้ายยังระบุเหตุผลในการประกาศใช้พระราชกำหนดฉบับนี้ คือ โดยที่องค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (World Anti-Doping Agency : WADA) ซึ่งเป็นองค์กรระดับระหว่างประเทศที่กำหนดมาตรการควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬาในระดับนานาชาติ ได้ปรับปรุงประมวลกฎการต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (World Anti-Doping Code) ทำให้บทบัญญัติบางประการแห่งพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. 2555 ไม่สอดคล้องกับประมวลกฎดังกล่าว
หากไม่มีการแก้บทบัญญัติเหล่านั้นอย่างเร่งด่วน จะส่งผลกระทบต่อการจัดการแข่งขันกีฬาระดับชาติและระดับนานาชาติที่ประเทศไทยได้รับสิทธิในการจัดการแข่งขันมาแล้วและมีกำหนดที่จะจัดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้หลายรายการ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างรุนแรงทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม กับจะทำให้ประเทศไทยไม่สามารถเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาในระดับชาติและระดับนานาชาติใดๆ ที่มีผลประโยชน์ตอบแทนต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศสูงได้อีกต่อไป และจะถูกจำกัดสิทธิหลายประการในการส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันในระดับชาติและระดับนานาชาติอีกด้วย ซึ่งรวมถึงสิทธิในการใช้ธงชาติไทยในการแข่งขันกีฬา อันกระทบต่อชื่อเสียงเกียรติภูมิของประเทศและความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งมวล จึงเป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้เพื่อประโยชน์ในอันที่จะรักษาความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศจึงจำเป็นต้องตราพระราชกำหนดนี้