วันที่ 6 มกราคม 2565 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ระบุว่า “โควิด-19 โอมิครอน หยุดยาวช่วงปีใหม่ และการติดต่อง่าย” โอมิครอน เรารู้แล้วว่าติดต่อง่าย ประกอบกับ การสนุกสนานรื่นเริง และหยุดยาวช่วงปีใหม่ ดังนั้น ผลที่จะพบผู้ป่วยมากขึ้นในช่วงต่อจากนี้ไป ไม่ใช่เรื่องแปลก
ผมอยู่กับห้องปฏิบัติการ การตรวจทางห้องปฏิบัติการ 2 – 3 วันนี้ รู้แล้วว่าตัวเลขและอัตราการตรวจพบ โควิด 19 เพิ่มขึ้นมากๆ
ผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อ นับจากนี้ต่อไป จะเริ่มพุ่งขึ้นสูงอย่างแน่นอน จะขึ้นสูงแค่ไหนก็คงขึ้นอยู่กับการปฏิบัติ ต่อจากนี้ ที่ทุกคนจะต้องร่วมมือกันลดจำนวนตัวเลข ให้อยู่ในระดับที่ระบบสาธารณสุขรองรับได้
อัตราการป่วยรุนแรง และเสียชีวิต เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนผู้ป่วย จะน้อยกว่า ช่วงการระบาดของเดลตา สิ่งที่สำคัญขณะนี้ จะต้องเร่งกระตุ้นวัคซีนเข็มที่ 3 ให้ได้มากที่สุดและอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง 608 ที่เรารู้กันดีว่าอายุเกิน 60 และหรือ มีโรคเรื้อรัง 8 โรค เพื่อลดความรุนแรงให้ได้
การดูแลรักษา จะรับผู้ป่วยที่มีอาการมากเข้าโรงพยาบาล ในกลุ่มสีเขียว จำเป็นที่จะต้อง แยกตัวที่บ้าน หรือ ในชุมชนที่จัดไว้ community isolate เพื่อเป็นการลดการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์จะได้มีเวลาไปดูแลผู้ป่วยที่มีอาการมาก
จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ ในรูปเราจะเห็นว่าการระบาดของทั่วโลกเกิดขึ้นเป็น 4 ระลอก เมื่อเปรียบเทียบอัตราป่วยตาย จะเห็นว่าอัตราป่วยตายมีแนวโน้มลดลง ถ้าเริ่มจากปีแรกอัตราป่วยตายถึง 3 ถึง 5 % พอเข้าสู่ปีที่ 2 เริ่มลดลงเหลือ 2 % และมีแนวโน้มลดลงมาโดยตลอดจนมาถึงระลอก ของโอมิครอน ที่กำลังระบาดอยู่ขณะนี้อัตราการป่วยตายอยู่ที่ 0.3 % และก็หวังว่าจะลดลงอีก ดังแสดงในรูป
อัตราการเสียชีวิตในช่วงระบาดของเดลตาของประเทศไทย เราน้อยกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของทั่วโลก อัตราการป่วยตาย อยู่ที่ประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ และหวังว่าในช่วงการระบาดของโอมิครอน ก็น่าจะลดลงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของทั่วโลก และถ้าเป็นไปได้ ถ้าทั่วโลกอัตราการป่วยตาย เหลือน้อยกว่า 0.1% หรือหนึ่งในพัน ก็จะเข้าสู่ยุคของ โรคทางเดินหายใจประจำฤดูกาล ที่จะสร้างปัญหาส่วนใหญ่ให้กับกลุ่มเสี่ยง และกลุ่มเปราะบางอย่างเช่นไข้หวัดใหญ่