ศาสตราจารย์นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่าขณะนี้ทั่วโลกพบการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอนมากว่า 5 สัปดาห์แล้ว หลายประเทศรับรู้ธรรมชาติของโรคแล้วว่าอาการไม่รุนแรง โจมตีในระบบทางเดินหายใจส่วนบนมากกว่าปอด จึงใช้วิธีการรักษาที่บ้านมากกว่าในโรงพยาบาล ยกเว้นกรณีอาการรุนแรงจริงๆ ต้องเข้าโรงพยาบาล และขณะนี้เราเรียนรู้ความจริงของโอไมครอน 5 อย่าง คือ
1.กระจายเชื้อเร็ว อย่างน้อย 3 เท่าของเชื้อเดลต้า ตัวเลขติดเชื้อตอนนี้ก็ยืนยันแล้ว โดยเฉพาะหลังปีใหม่ที่มีนิวไฮในหลายประเทศ
2.อาการผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อายุไม่มาก ไม่รุนแรง หรือไม่มีอาการ เนื่องจากผู้สูงอายุส่วนใหญ่ทั่วโลกรับวัคซีนมากแล้ว โอกาสติดเชื้อแล้วเข้าโรงพยาบาล หลายประเทศรายงานว่าอัตราอยู่ที่ 1 ใน 3 ถึง 1 ใน 2 ของการติดเชื้อเมื่อเทียบกับเชื้อเดลต้า
3.พยาธิสภาพของไวรัส เกิดการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจส่วนบน โอกาสลงปอดน้อยกว่าเชื้อเดลต้า เป็นเหตุผลที่ความรุนแรงน้อยลง แต่แพร่เชื้อได้ดี เพราะติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน ที่เกิดอาการไอ จาม ซึ่งแพร่เชื้อได้มากขึ้น
4.วัคซีนที่ฉีดทุกชนิดเพียง 2 เข็ม ไม่พอในการป้องกันเชื้อโอมิครอน ซึ่งทั่วโลกเริ่มออกมาประกาศเร่งฉีดเข็มกระตุ้น
5.ยารักษาซึ่งมีรายงานออกมาว่า มียาบางตัวที่อาจตอบสนองเชื้อโอมิครอนได้ไม่ดีนัก แต่ยาส่วนใหญ่ยังได้ผลดี รวมถึงยาฟาวิพิราเวียร์ โมลนูพิราเวียร์ ซึ่งเป็นยาในตระกูลยาต้านไวรัสพิราเวียร์ ยังได้ผลดี
ดังนั้นจึงไม่อยากให้สังคมตื่นตระหนก แต่ก็ไม่อยากให้ผ่อนคลายมากเกินไป เชื่อว่าไม่เกิน 1 สัปดาห์นี้ ไทยจะพบการติดเชื้อใหม่ทะลุหมื่นรายแน่นอน และภายในปลายเดือนนี้ จะเห็นตัวเลขวันละ 2-3 หมื่นราย