วันที่ 7 ม.ค. 2565 นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ว่า ธรรมชาติหาทางช่วยให้ไวรัสโควิด-19 อยู่กับมนุษย์มากที่สุดและนานที่สุด ไม่ให้สูญพันธุ์จากโลกนี้ ด้วยการกลายพันธุ์ เกิดไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน ลดความรุนแรงลงมาก ไม่ทำให้มนุษย์ป่วยหนักถึงขั้นเสียชีวิต เพื่อให้มนุษย์เป็นพาหะแพร่กระจายเชื้อต่อให้เพื่อนมนุษย์ทุกเผ่าพันธ์ุ ผิวดำ ผิวขาว คนเอเซีย ทุกเพศ ทุกวัย แพร่เชื้อได้ง่ายทางการหายใจ และรวดเร็วมากกว่าทุกสายพันธุ์ดั้งเดิม ในที่สุดคนส่วนใหญ่ในโลก ไม่ช้าก็เร็วจะติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน
การติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนเปรียบเสมือนการได้รับวัคซีนธรรมชาติอ่อนฤทธิ์ตัวเป็น กระตุ้นภูมิต้านทานได้ดีกว่าวัคซีนทุกชนิดในปัจจุบัน ศ.เกียรติคุณ ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดลมีความเห็นตรงกับผม (ดูภาพ) ในที่สุดมนุษย์ก็จะมีภูมิคุ้มกันหมู่ หยุดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างภายในปีนี้ โรคโควิด-19 จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น เด็กเกิดใหม่ทุกคนในโลกนี้ไม่เคยรับเชื้อ ก็จะติดเชื้อนี้ทุกปี
ไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนเป็นตัวแปรสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำของประเทศที่ยากจนขาดแคลนวัคซีน กับประเทศที่ร่ำรวยมีวัคซีนมากเกินพอ คนที่ได้รับวัคซีนครบโดสก็ยังติดเชื้อและแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ เพียงแต่ลดความรุนแรงลง แต่เนื่องจากสายพันธุ์โอมิครอนไม่ก่อให้เกิดอาการรุนแรง อาการเหมือนเป็นหวัดธรรมดา วัคซีนช่วยลดความรุนแรงลงได้อีก แต่ก็ไม่มากเท่าสายพันธุ์เดลตา
ผมแนะนำให้คนสูงอายุ คนที่มีโรคประจำตัว 7 โรคและหญิงตั้งครรภ์ ที่ยังไม่ได้วัคซีนเข็มแรก รีบไปรับวัคซีนโดยด่วน และคนที่ถึงเวลาฉีดเข็มวัคซีนกระตุ้น รีบไปรับวัคซีน ก่อนที่คนส่วนใหญ่ในประเทศจะรับเชื้อโอมิครอนใน 1-2 เดือนข้างหน้า
ในอนาคต โลกอยากเห็นวัคซีนครอบจักรวาล ครอบคลุมเชื้อไวรัสโคโรนา 4 ชนิด ที่ทำให้เกิดไข้หวัดในเด็ก รวมทั้ง ซาร์ส (SARS) เมอร์ส (MERS) ไม่เฉพาะไวรัสโควิด-19 เท่านั้น