จากกรณีกองทัพภาคที่ 2 พบเรือปริศนาไร้สัญชาติ ลอยลำใกล้แท่นขุดเจาะน้ำมันกลางทะเล อยู่ทางทิศคะวันออกเฉียงใต้ของเกาะสมุย ไปประมาณ 70 ไมล์ทะเล เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจสอบเรือลำดังกล่าว พบเรือมีลักษณะคล้ายเรือสินค้า ความยาวประมาณ 80 เมตร ภายในไม่มีสินค้า และไม่มีลูกเรือแม้แต่คนเดียว จากการตรวจสอบตัวอักษรไม่พบว่ามีอยู่ในสาระบบ ก่อนพบว่ามีน้ำท่วมห้องเครื่อง 40-50 เปอร์เซ็นต์ของลำเรือ ส่งผลให้ตัวเรือเอียงประมาณ 35 องศา จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงสูบน้ำออกเพื่อพยุงเรือ ก่อนใข้เรือของกองทัพลกจูงจากพิกัดที่พบเรือ มุ่งหน้าปากน้ำตาปี อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี แต่เมื่อมาถึงบริเวณพื้นที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งอยู่ห่างจากฝั่ง 28 ไมล์ทะเล มีคลื่นลมแรง ทำให้เรือลำดังกล่าวจมดิ่งลงไปใต้ท้องทะเลอีกครั้ง
ล่าสุดกองทัพเรือ ส่งเรือหลวงตาปี และเรือจำนวนหนึ่งเฝ้าพิกัด พร้อมประสานเจ้าท่า จ.นครราชสีมา ให้ประกาศเป็นพื้นที่เรือจม เพื่อให้ชาวประมงระมัดระวังการเดินเรือ อย่างไรก็ตามขณะนี้เกิดคราบน้ำมันบริเวณดังกล่าวแม้จะมีปริมาณไม่มาก แต่เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ เจ้าหน้าที่จึงเร่งขจัดคราบน้ำมันให้แล้วเสร็จภายใน 2-3 วันนี้ เพราะจากทิศทางลมและคลื่นอาจจะพัดพาคราบน้ำมัน ไปสู่เกาะมัดสุ่ม ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ส่วนการกู้ซากเรือจากท้องทะเลจะดำเนินการต่อไปหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินสภาพความพร้อม และผลกระทบอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น