“กมธ.สิทธิฯ-วุฒิสภา” ชงฯนายกฯตู่ ปรับระบบสื่อสารเรื่องข้อมูล หวั่น “โอมิครอน” ลามหนักจนกระทบระบบสาธารณสุข

วุฒิสภา - กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ วุฒิสภา ส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค. แนะจัดระเบียบการกระจายและการเข้าถึงวัคซีนให้สะดวกยิ่งขึ้น รวมทั้งต้องเร่งจัดการระบบการสื่อสารกับประชาชน ที่จะต้องมีความชัดเจนและถูกต้องของข้อมูล ก่อนประชาชนจะตื่นตระหนกจนกระทบต่อระบบสาธารณสุขของชาติ

การประชุมคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ครั้งที่ 1/2565 วันที่ 10 มกราคม 2565 โดยมีนายสมชาย แสวงการ เป็นประธาน ฯ ได้มีการหยิบยกสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 สายพันธุ์ “โอมิครอน” ระลอกที่ 5 ด้วยความห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ส่งกระทบหลายด้าน คณะกรรมาธิการจึงได้มีการสรุปความคิดเห็นเป็นข้อเสนอแนะเป็นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์สถานการณ์โควิด-19 เพื่อพิจารณาดำเนินการ จำนวน 4 ประเด็น

1.จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 สายพันธุ์ “โอมิครอน” (ระลอกที่ 5) ซึ่งมีการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้ประชาชนจำนวนมากทั้งผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 และผู้ที่ความต้องการที่จะฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น (เข็ม 3) เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันโรคดังกล่าว แต่ เนื่องจากระบบในการจองวัคซีนดังกล่าวมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงานเปิดให้จองฉีดวัคซีน จึงทำให้ประชาชนเกิดความสับสนในการเข้ารับการฉีดวัคซีน ดังนั้น เห็นว่ารัฐบาลควรหาแนวทางการบริหารจัดการระบบการกระจายวัคซีนให้ประชาชนสามารถเข้าถึงระบบการจองวัคซีนได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น

2. จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อดังกล่าว พบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นและคาดว่า ในอนาคตอาจจะส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขของประเทศไทย ทั้งโรงพยาบาลของรัฐ โรงพยาบาลเอกชน และโรงพยาบาลสนาม ที่ไม่สามารถจัดสรรการรักษาพยาบาลให้เพียงพอต่อผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 ได้ ดังนั้น รัฐบาลควรจัดระบบการรักษาพยาบาลให้มีความชัดเจน เพื่อให้ระบบสาธารณสุขของประเทศรองรับผู้ติดเชื้อที่จะเพิ่มขึ้นได้ เช่น กลุ่มผู้ติดเชื้อที่มีอาการไม่รุนแรง (กลุ่มสีเขียว) ควรกักตัวและรักษาอาการป่วยที่บ้านพัก (Home Isolation) กลุ่มผู้ติดเชื้อที่มีอาการรุนแรงกลุ่มที่มีโรคประจำตัวและเด็กให้ส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล เป็นต้น

3. ปัจจุบันประชาชนมีความต้องการชุดตรวจการติดเชื้อโรคโควิด – 19 (Antigen test kit หรือ ATK) เป็นจำนวนมาก เพื่อใช้ในการตรวจหาเชื้อภายในครอบครัว จึงเห็นว่า รัฐบาลควรจัดหาชุดตรวจดังกล่าวที่มีคุณภาพและเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน รวมทั้งให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม

4. รัฐบาลควรมีการสื่อสารข้อมูลการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 ระลอกที่ 5 กับประชาชนโดยตรง ทั้งในเรื่องการเข้ารับการรักษาพยาบาล การเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการเตรียมความพร้อมและรองรับการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ นายสมชาย แสวงการ ประธานคณะกรรมาธิการฯ ยังระบุว่า การทำหนังสือข้อเสนอแนะ ต่อนายกรัฐมนตรี ครั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยภาครัฐในการมุ่งหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาและป้องกันการแพร่ระบาดของสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกภาคส่วนที่จะร่วมมือกันให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้ด้วยกัน

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“สมศักดิ์” เตรียมเอาผิดสถานพยาบาลออกใบรับรองแพทย์คนต่างด้าวปลอม งานนี้มีคนต้องติดคุก
‘นายกฯ’ คิกออฟ 30 บาทรักษาทุกที่ เฟส 4 อีก 31 จังหวัด เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพคนไทย 100%
เริ่มแล้ววันนี้ งาน “Co-op Market Fair พลังสหกรณ์ ขับเคลื่อนสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น By ร้านสหกรณ์เทเวศร์ จำกัด” พบกับสินค้าผลผลิตจากสหกรณ์ทั่วประเทศ หวังขยายช่องทางการตลาดสินค้าคุณภาพของสหกรณ์สู่ผู้บริโภค
"กรมราชทัณฑ์" แจงกรณีพักโทษ โยงปมชั้น 14 ยืนยันมี คกก.พิจารณาตามกฎหมาย
"รัฐบาล" อำนวยความสะดวก ปชช.เดินทางปีใหม่ 68 ห้ามรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป วิ่งถนน 8 สาย
“กูรู”บุกชายแดน! เผยข้อมูลช็อก “ว้าแดง” บุกคุมต้นน้ำ-หวั่นไทยเสียประโยชน์
เผยซากลูกช้างแมมมอธ อายุ 5 หมื่นปี สภาพสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยพบ
เกาหลีใต้เข้าสู่สังคมสูงวัยระดับสุดยอดเร็วกว่าที่คิด
"จตุพร"สวนแรง "ทักษิณ" อย่าลำเลิกบุญคุณ ทำเกรี้ยวกราดสุด ไหนบอกกลับไทยมาเลี้ยงหลาน
บราซิลพบแรงงานจีน 163 คนทำงานเยี่ยงทาส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น