เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 14 ม.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลง ว่า ในการประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศปก.ศบค.)มีการรายงานคลัสเตอร์ โดยส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารในหลายจังหวัดทั้งจังหวัดเลยและจังหวัดขอนแก่น ซึ่งพบว่าเป็นร้านเหล้าชื่อ ร้านเหล้าสุขสันต์ และร้าน 99 วินเทจ จึงต้องขอเน้นย้ำว่าเป็นการฝ่าฝืนเปิดให้บริการ เพราะยังไม่เปิดให้สถานบันเทิงเปิดให้บริการ แต่ยังไม่มีการอนุญาตให้สถานบันเทิงเปิดแต่มีการลักลอบเปิดแล้วเกิดการแพร่ระบาดเป็นคลัสเตอร์ ทำให้การพิจารณาเปิดสถานบันเทิงอาจจะต้องชะลอไปทั้งนี้ จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดหนองบัวลำภูคลัสเตอร์ 11 ราย จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดอุดรธานี คลัสเตอร์ร้านอาหาร
พญ.อภิสมัย กล่าวต่อว่า สำหรับตัวเลขคลัสเตอร์ปีใหม่ ยังพบว่า ยอดผู้ติดเชื้อหลังเทศกาลปีใหม่ยังมีรายงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายงานการสังสรรค์ในช่วงเทศกาลปีใหม่คลัสเตอร์งานเลี้ยงที่ จังหวัดอุดรธานี จังหวัดอำนาจเจริญ คลัสเตอร์งานบวช ที่จังหวัดลพบุรี คลัสเตอร์งานบุญที่จังหวัดเลย คลัสเตอร์งานแต่ง ที่จังหวัดสงขลาทั้งนี้ จากการสำรวจของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
พบว่านอกจากมีการชุมนุมพบปะกันที่ทำให้เกิดปัจจัยเสี่ยง คือ การรับประทานอาหารร่วมกัน พี่ต้องถอดหน้ากากอนามัยและสัมผัสใกล้ชิด รวมถึงเมื่อมีพิธีกรรมงานบวชหรืองานบุญมีการเดินทางข้ามพื้นที่ อาจจะทำให้เป็นสาเหตุให้เกิดการแพร่ระบาด นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการแพร่ระบาดในโรงงานและสถานประกอบการ โดยมีรายงาน 10 รายที่จังหวัดอุดรธานี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดฉะเชิงเทรา และจังหวัดร้อยเอ็ด เนื่องจากพนักงานเดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลปีใหม่ และไปร่วมงานบุญ และเดินทางกลับเข้าทำงาน โดยที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการหละหลวม ไม่มีการตรวจ ATK
เมื่อถามถึงการเดินทางเข้าประเทศในระบบTest & Go หลังวันที่ 15 ม.ค.นี้ยังสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้หรือไม่ และมาตรการเข้าประเทศของคนไทยและคนต่างชาติมีความแตกต่างกันหรือไม่ พญ.อภิสมัย กล่าวว่า การเดินทางการเดินทางเข้าราชอาณาจักรหลังวันที่ 15 ม.ค.ยังสามารถทำได้สำหรับคนที่ลงทะเบียนไว้แล้ว จนกว่าจะมีการประชุมศบค.ชุดใหญ่ในครั้งต่อไปจึงจะมีการพิจารณาเพิ่มเติม และผู้ที่จะเดินทางเข้าราชอาณาจักร สาธารณสุขจำเป็นที่จะต้องมีผลตรวจ RT-PCR ก่อนที่จะขึ้นเครื่องบินมายังประเทศไทย ซึ่งเป็นมาตรการที่ใช้ทั้งคนไทยและคนต่างประเทศเหมือนกัน และเมื่อมาถึงจะต้องมีการตรวจ RT-PCR ซ้ำทันที ส่วนเพิ่มเติมขึ้นมาคือ ในวันที่ 5-6 จำเป็นจะต้องตรวจครั้งที่ 2 โดยไม่ได้มีการยกเลิกการตรวจ ทั้งนี้ มีการบังคับให้ติดตามแอพพลิเคชั่นหมอชนะ เพื่อติดตามให้มาตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 2 ย้ำว่ามีการติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด 24 ชั่วโมง ในกลุ่มนักท่องเที่ยวและผู้ที่เดินทางเข้ามาทั้งคนไทยและคนต่างชาติ.