วันที่ 17 ม.ค.65 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐแพ้การเลือกตั้งซ่อมจังหวัดชุมพรและสงขลา ว่าวันนี้ในพรรคร่วมรัฐบาลก็ยังทำงานกันดีไม่มีปัญหาอะไร การเลือกตั้งคือการเลือกตั้ง เป็นลักษณะนี้มาโดยตลอด เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งก็ดูเหมือนจะขัดแย้งกันอะไรต่างๆ แต่การทำงาน ทุกคนก็ทำงานเพื่อประชาชนใช่หรือไม่ ในพรรคร่วมรัฐบาล ท้ายที่สุดก็ต้องทำเพื่อประชาชนและต้องช่วยกันทำงานเพราะเราคือรัฐบาลพรรคร่วม ในการหาเสียงก็เห็นว่าดุเดือดมาแบบนี้ ใครจะชนะจะแพ้ ก็ยินดีด้วยกับผู้ชนะ ไม่ได้ให้ความสำคัญ
ส่วนการใช้คำพูดในการหาเสียงโจมตีกันนั้นพลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า เมื่อก่อนแรงกว่านี้อีกลองไปดู ยืนยัน ไม่มีปัญหากับตน เป็นเรื่องของการหาเสียงทาง พรรคร่วมเองก็ตอบมาแล้วและในการประชุมครม.ก็ทักทายกันดี ยังเย้าแหย่ในที่ประชุม ขอให้กำลังใจทุกพรรคการเมือง รัฐบาลมีหน้าที่ทำงานซึ่งตอนนี้มีงานเยอะมากที่ต้องแก้ปัญหา พร้อมมองว่าขัดแย้งไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา อยู่เฉยๆทำงานร่วมกัน ช่วยประชาชนดีกว่า
สำหรับการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องราคาสินค้าแพง นายกรัฐมนตรี ระบุว่าต้องไปสำรวจตั้งแต่ต้นทางว่าปัญหาอยู่ที่ไหนเรื่องปริมาณ มีเพียงพอหรือไม่ เช่น หมู ต้องมีการนำเข้า ระงับการส่งออก ผลิตหมูออกมา และส่งเสริมผู้ค้าหมูรายย่อย เพื่อให้มีปริมาณหมูเพียงพอใช้ในประเทศ เมื่อหมูตายก็ต้องสร้างหมูใหม่เพาะพันธุ์ขึ้นมาทดแทน สิ่งที่สำคัญคือการแพร่ระบาดครั้งนี้เป็นแค่บางพื้นที่ไปไม่ใช่ทั่วประเทศ หมูตายไม่ถึง 20 % แต่เหตุใดหมูถึงขาดตลาด แสดงว่าต้องมีคนไปทำให้กระบวนการผิดปกติหรือไม่ส่งผลให้มีการขึ้นราคาตามมา ซึ่งได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์,กระทรวงเกษตรฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบแล้ว หากไม่ถูกต้องตามกฎหมายต้องร้องเรียน
สคบ. ตามกระบวนการ
ส่วนสาเหตุที่ของแพงมาจากราคาน้ำมันส่งผลให้ราคาต้นทุนสินค้าปรับขึ้นนั้นต้องไปคำนวณต้นทนมา ถ้าขึ้นราคาแล้วมีเหตุผลสมควรก็คงไม่มีอะไร แต่ อย่าให้ประชาชนเดือดร้อนมากก็แล้วกัน ไม่ใช่น้ำมันขึ้น 1 บาทสินค้าไปขึ้น 5 บาท เอาเหตุผลอะไรมาขึ้นราคา ตนไม่เข้าใจ ขออย่าเห็นแก่ตัวกันในเวลานี้เลย
ส่วนที่มีการเรียกร้องให้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เนื่องจากสินค้าราคาปรับขึ้นนั้น พลเอกประยุทธ์ ถามสื่อกลับว่า จะเอาเงินมาจากไหน พูดก็พูดได้หมด แต่ต้องหาเงินมาให้ได้ก่อนรัฐบาลจะต้องมีเงินก่อน