วันที่ 19 ม.ค. ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กข้อความว่า โควิด-19 วัคซีนการกระตุ้นเข็ม 3 ด้วยวัคซีนไฟเซอร์ ในสูตรต่างๆ ประเทศไทยได้มีการให้วัคซีนไปแล้วมากกว่า 110 ล้านโดส นับว่ามากพอสมควร และทั่วโลกมีการให้ไปแล้วร่วม 10,000 ล้านโดส แล้ว รวมทั้งประชากรจำนวนหนึ่งได้ติดเชื้อทั้งที่มีอาการและไม่มีอาการ ทำให้มีภูมิคุ้มกันเกิดขึ้นเป็นบางส่วน ถึงแม้ว่าจะป้องกันการติดเชื้อโอมิครอน ไม่ได้แบบสมบูรณ์ แต่ก็เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ลดความรุนแรงของโรคลง
ศ.นพ.ยงกล่าวว่า การกระตุ้นเข็ม 3 ในปัจจุบันมีความจำเป็นที่จะต้องให้ครบหลักการตามให้วัคซีนที่มี primary วัคซีน 2 โดส แล้วตามด้วยกระตุ้นเข็ม 3 เพื่อให้ภูมิคุ้มกันได้สูงและอยู่นานขึ้น ตามหลักของการให้วัคซีน ประเทศไทยมีการให้วัคซีนหลากหลายสูตรอย่างมาก การกระตุ้นต่างชนิดกัน ในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับทั่วไป จะเห็นว่ามีผลงานองค์ความรู้ทางวิชาการระดับนานาชาติออกมามากมาย ในวันนี้จะขอแสดงผลการให้วัคซีนเบื้องต้นในสูตรต่างๆ ที่ใช้ในประเทศไทยทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Sinovac, Sinopharm, AstraZeneca , สูตรสลับ SV/AZ, Pfizer มาแล้ว 2 เข็ม และกระตุ้นด้วย mRNA ไฟเซอร์ (วันต่อไปค่อยเอาข้อมูล Moderna และการกระตุ้นด้วยวัคซีนอื่น มาแสดงต่อไป)
ศ.นพ.ยงกล่าวอีกว่า วัคซีนไฟเซอร์เป็นวัคซีนที่ใช้กระตุ้นได้ดีไม่ว่าจะเป็นการฉีดเบื้องต้น 2 เข็มมาแล้ว ในสูตรเกือบทุกชนิด ดังแสดงในรูป การให้วัคซีนเชื้อตายนำมาก่อน ได้ผลไม่แตกต่างกับการให้วัคซีน ไวรัส Vector หรือ mRNA การทำการศึกษาครั้งนี้ เราได้ศึกษาทั้งภูมิต้านทาน โดยตรวจ 2 วิธี ในแต่ละรูป นอกจากนี้ยังทำการศึกษา sVNT ต่อไวรัสทั้งสายพันธุ์ อู่ฮั่น แอลฟา เบต้า และ เดลต้า และโอมิครอน รวมทั้งการศึกษา FRNT ด้วยไวรัสเชื้อเป็นสายพันธุ์เดลต้าและโอมิครอน ข้อมูลแสดงผลการยับยั้งสายพันธุ์เดลต้าและโอมิครอน ได้เป็นอย่างดี แสดงว่าที่ผ่านมาประเทศไทยได้เดินมาถูกทางแล้ว ผลงานทั้งหมดอยู่ระหว่างการเขียน เพื่อลงในวารสารระดับนานาชาติ