จากกรณีที่ เก๋งเมาหลุดโค้ง เสยเหล็กกั้นทาง พุ่งตกร่องข้างถนน มีคนเจ็บ 2 ติดซากรถ โดยเกิดเหตุเมื่อเวลา 22.30น. วันที่ 19 ม.ค. 65 จากการตรวจสอบพบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 2 ราย โดยรายแรกคือ นายวิษณุ แซ่อึ้ง อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นคนขับ อยู่ในอาการมึนเมาสุรา ส่วนอีกรายเป็นผู้โดยสารนั่งข้างคนขับ ซึ่งการช่วยเหลือเป็นไปอย่างทุลักทุเล เนื่องจากมีรูปร่างอ้วน เจ้าหน้าที่จึงนำตัวออกทางประตูด้านหลัง และนำตัวส่งโรงพยาบาล ต่อมาทราบว่าชายดังกล่าวเป็นพระวัดหลวงปรีชากูล อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี มีตำแหน่งเป็นถึง “ผู้ช่วยเจ้าอาวาส” แต่ที่แปลกก็คือ ไม่ได้ใส่ผ้าเหลือง แต่กลับแต่งตัวคล้ายฆราวาส
ล่าสุดวันนี้ (20 ม.ค. 65) เวลา 08.30น. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ วัดหลวงปรีชากูล ซึ่งเป็นวัดต้นสังกัด ของพระที่เกิดอุบัติเหตุ เบื้องต้นได้พบเจ้าอาวาสวัด แต่ท่านเจ้าอาวาสมีอาการอาพาธ ผ่าตัดหัวเข่า จึงได้มอบหมายให้ นายพิสูจน์ จันทพัฒน์ อายุ 69 ปี ประธานกรรมการและไวยยาวัชกรวัดหลวงปรีชากุล ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว ว่า พระที่ประสบอุบัติเหตุ คือ พระปริพัฒน์ เชื้อแพทย์ อายุ 35 ปี ได้แต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสเมื่อประมาณปีที่แล้ว เนื่องจากท่านบวชเรียนมานานกว่า 10 พรรษา และเป็นพระที่เรียนเก่ง มีความรู้ ซึ่งได้รับมอบหมายเป็นพระนักเทศน์ เป็นพระวิทยากร ซึ่งเป็นที่ยอมรับในวงการพระสงฆ์ในเขตจังหวัดปราจีนบุรี ด้วยความที่เป็นพระ ที่มีความรู้ จึงได้ไว้วางใจแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส ไม่คิดว่า ท่านประพฤติประพฤติตัวแบบนี้ ทำให้คนในวัด และเหล่ากรรมการลูกศิษย์ลูกหา ต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
สวนรถคันที่เกิดเหตุ มีผู้ใจบุญมาถวายให้กับวัด ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าอาวาส แต่พระลูกวัดในวัดทั้งหมดสามารถใช้งานรถคันนี้ได้ โดยคนที่ขับรถพาไปนั้นเคยบวชอยู่ที่วัดนี้และสึกออกไปนานแล้ว วันเกิดเหตุไม่ทราบว่า พระปริพัฒน์ออกไปเมื่อไหร่ และออกไปทำไม แต่จากการประชุมหารือกับทางเจ้าอาวาสวัดและคณะกรรมการ ทำให้มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าต้องทำการลาสิกขาพระรูปดังกล่าว หลังจากที่รักษาตัวจากโรงพยาบาลเสร็จสิ้น ส่วนในเรื่องของคดีความและความเสียหายของรถนั้น จะปล่อยให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวเดินเข้าไปสำรวจกุฏิที่พระปริพัฒน์ พบเครื่องสังฆทานที่ถูกแกะแล้ว วางกองอยู่บริเวณทางด้านหน้ากุฎิเป็นจำนวนมาก แต่ทางเจ้าหน้าที่วัดยังไม่อนุญาตให้เข้าไปภายในกุฏิ เนื่องจากต้องรอ พระปริพัฒน์กลับมาก่อน
นางวารินทร์ สิกขชาติ อายุ 55 ปี ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาปราจีนบุรี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งแล้วนั้นจึงได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงผลปรากฏว่า เป็นพระลูกวัดและเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสจริง จึงได้สอบถามและหารือกับเจ้าอาวาส และได้ข้อสรุปจากทางเจ้าอาวาสและกรรมการวัดว่า หลังจากที่พระรูปดังกล่าวกลับมาให้ทำการสึกออกจากความเป็นพระทันที
เบื้องต้น ทางพระรูปที่เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวนั้นยังไม่สามารถให้ข้อมูลใดๆ ได้เนื่องจากต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ส่วนทางคนขับรถหรือลูกศิษย์ที่ไปด้วยนั้นในขณะนี้ไม่สามารถติดต่อได้