วันที่ 25 ม.ค.65 ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้อ่านคำพิพากษาคดีหมิ่นประมาทหมายเลขดำอ. 2890 / 62 ที่ น.ส.ชลิตา บัณฑุวงศ์ อาจารย์ ม.เกษตรศาสตร์ เป็นโจทก์ฟ้อง ร.อ.ทรงกลด หรือ นายทรงกลด ชื่นชูผล (ผู้กองปูเค็ม) นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เป็นจำเลยความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา กรณีเมื่อวันที่ 2 -3 และ 31 ต.ค.62 จำเลยได้โพสต์เฟซบุ๊ก ใช้ชื่อว่า ผู้กองปูเค็ม โพสต์ข้อความต่าง ๆ ใส่ร้ายโจทก์ทำนองว่า จะยื่นหนังสือร้องเรียนถึงอธิการบดี ม.เกษตรศาสตร์ กรณีที่ตนซึ่งเป็นรองคณบดีภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมวิทยา ได้ยุยงปลุกปั่น ให้ประชาชน แยกดินแดน และขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 1 ควรเสียบหัวประจาน และข้ออื่นที่ล้วนเป็นเท็จ ด่าทอโจทก์ด้วยถ้อยคำหยาบคาย ทำให้โจทก์ได้รับเสียหาย เสื่อเสียชื่อเสียง ขอให้ลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลย ประกอบกับระหว่างพิจารณาจำเลยแถลงยอมรับว่าโพสต์ข้อความและถ่ายทอดสด (ไลฟ์สต) ผ่านทางเฟซบุ๊กของจำเลย มีการเผยแพร่ข้อความและถ้อยคำของจำเลยตามฟ้องจริง ทำให้ประชาชนทั่วไปได้รับชมขณะจำเลยไปยื่นหนังสือถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะกรรมการสอบสวนวินัยโจทก์จากกรณีที่โจทก์พูดแสดงความคิดเห็นในการเสวนา และอัปโหลดหนังสือดังกล่าวบนหน้าเฟขบุ๊กของจำเลยเพื่อให้เพื่อนในเฟชบุ๊ก ซึ่งเป็นบุคคลที่สามรวมทั้งสื่อมวลชนได้ดาวน์โหลด แล้วสื่อมวลชนหลายสำนักนำเผยแพร่ทั่วประเทศ
ศาลเห็นว่าข้อความของจำเลยที่ระบุว่า โจทก์ยุยงปลุกปั่นประชาชนแยกดินแดนนั้น ไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นหรือติชม เพราะไม่มีข้อเท็จจริงหรือเหตุผลตามความคิดเห็นของจำเลย ไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์แนวคิดของโจทก์ในการเสวนาว่าไม่ถูกต้องอย่างไร มีเพียงการใส่ความโดยการกล่าวหาเรื่องร้ายให้แก่โจทก์ด้วยข้อหาร้ายแรงว่ายุยงปลุกปั่นประชาชนแยกดินแดน เป็นเหตุให้ต้องยื่นหนังสือถึงอธิการบดี ม.เกษตรศาสตร์ ตั้งกรรมการสอบฯ ทำให้เพื่อนในเฟซบุ๊กหรือบุคคลทั่วไปที่อ่านข้อความซึ่งเป็นบุคคลที่สามเข้าใจไปตามข้อความของจำเลย และดูหมิ่นเกลียดชังโจทก์ อันส่งผลกระทบต่อเกียรติและสถานะทางสังคมของโจทก์ จึงเป็นการใส่ความโจทก์ มิใช่การติชมด้วยความเป็นธรรมตามวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ แม้จำเลยไม่มีเหตุจูงใจส่วนตัวเพื่อกลั่นแกล้งใส่ความโจทก์ แต่จำเลยย่อมเล็งเห็นได้ว่า ข้อความหรือคำพูดของจำเลยดังกล่าวจะทำให้โจทก์เสียหาย
ทั้งนี้พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 91 ให้จำคุกกระทงละ 6 เดือนปรับกระทงละ 50,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 12 เดือน และปรับ 100,000 บาท พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีประกอบกับไม่ปรากฏว่า เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน เห็นสมควรให้โอกาสจำเลยกลับตนเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี กับให้จำเลยลบข้อความหรือคลิปไลฟ์สดที่มีข้อความหรือคำพูดหมิ่นประมาทโจทก์ตามคำพิพากษา