วันที่ 29 ม.ค. 2565 ที่หอประชุมพระบรมราชกุมารี สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส ตำบลลำภู อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และคณะได้เดินทางลงพื้นที่ จ.นราธิวาส เพื่อพบปะผู้บริหารสถาบันปอเนาะ โรงเรียนเอกชนและตาดีกา ตรวจเยี่ยมการจัดการเรียนการสอนนักศึกษาในสังกัด กศน. จังหวัดนราธิวาส และมอบนโยบายการจัดการเรียนการสอนภายใต้สถานการณ์ โควิด-19 โดยมีนายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ดร.ชารีฟท์ สือนิ ศึกษาธิการจังหวัดนราธิวาส ดร.สุชาติ ถาวระ ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานราธิวาส นายวาฟิก เปาะเตะเตะ ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอศรีสาคร รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดนราธิวาส นายซาฟีอี เจ๊ะเลาะ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส ผู้บริหารสถานศึกษาคณะครู บุคลากร ส่วนราชการ ร่วมให้การต้อนรับ
สำหรับสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดนราธิวาส ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน มีหน้าที่ส่งเสริม สนับสนุนการจัดการศึกษาเอกชนทั้งในระบบ และนอกระบบให้มีประสิทธิภาพ มีสถานศึกษาเอกชนในความรับผิดชอบดูแล จำนวนทั้งสิ้น 816 แห่ง ประกอบด้วย โรงเรียนเอกชนในระบบ จำนวน 98 โรงเรียน ได้แก่ ประเภทการศึกษาสงเคราะห์ จำนวน 2 โรงเรียน ประเภทสามัญ จำนวน 46 โรงเรียน และประเภทอิสลามควบคู่สามัญ จำนวน 50 โรงเรียน และ โรงเรียนเอกชนนอกระบบ จำนวน 718 แห่ง ได้แก่ สถาบันศึกษาปอเนาะ จำนวน 71 แห่ง ศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิด (ตาดีกา) จำนวน 645 ศูนย์ และโรงเรียนนอกระบบอื่นๆ จำนวน 2 แห่ง มีนักเรียนจำนวนทั้งสิ้น 135,777 คน ประกอบด้วย โรงเรียนเอกชนในระบบ จำนวน 65,456 คน และโรงเรียนเอกชนนอกระบบ จำนวน 70,321 คน มีครูผู้สอน จำนวนทั้งสิ้น 9,380 คน ประกอบด้วยโรงเรียนเอกชนในระบบ จำนวน 4,033 คน และโรงเรียนเอกชนนอกระบบ จำนวน 5,347 คน
ทั้งนี้ ในช่วงกว่าสองปีที่ผ่านมา ประเทศไทยและทั่วโลกเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19 ) รูปแบบการจัดการเรียนการสอนจึงจำเป็นต้อง ปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ซึ่งสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดนราธิวาส มีการกำกับติดตามการจัด การศึกษาของโรงเรียนเอกชนอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีโรงเรียนที่เปิดสอนในรูปแบบ On-Site จำนวน 109 แห่ง ประกอบด้วย โรงเรียนเอกชนในระบบ จำนวน 44 แห่ง ศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิด (ตาดีกา) จำนวน 63 แห่ง สถาบันศึกษาปอเนาะ จำนวน 1 แห่ง และ โรงเรียนนอกระบบอื่นๆ จำนวน 1 แห่ง ครู ผู้สอน และบุคลากรทั้งหมดที่อยู่ในสถานศึกษาเอกชนในระบบ และนอกระบบ ฉีด วัคซีนแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 8,911 คน คิดเป็น 93% นักเรียน ผู้เรียน ช่วงอายุ 12-18 ปี ที่ฉีดวัคซีนแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 31,348 คน คิดเป็น 66.13%
ทางด้านดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ในเรื่องการจัดการศึกษาเอกชนและการขับเคลื่อนการศึกษาของ กศน.ที่จัดการศึกษาในปอเนาะ จังหวัดนราธิวาส จากที่ได้รับข้อรับฟังและข้อเสนอแนะประเด็นปัญหาในหลายประเด็น ซึ่งในการขับเคลื่อนในส่วนของ สช.เองได้มอบหมายและจะต้องไปประมวลประเด็นปัญหาต่าง ๆ และขับเคลื่อนให้เกิดขึ้นกับส่วนที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานราชการอื่น และไปหารือกันให้เกิดความก้าวหน้า และในเรื่องของ พรบ.การศึกษาแห่งชาติจะทำในมิติของสะท้อนผ่านไปยังกรรมธิการที่กำลังดำเนินการอยู่ ในชั้นกรรมธิการถึงประเด็นที่รับฝากในวันนี้ และยังมีในเรื่องของอาหารกลางวันซึ่งประเด็นนี้ก็ได้มีการหารือและการเตรียมการที่เกี่ยวข้องต่อไป
ส่วนเรื่องการอ่านออกเสียงภาษาไทยและยังมีวิชาอื่น ๆ เช่น วิทยาศาสตร์และประกอบด้วย กับศาสนาอิสลามเองก็ได้รับข้อเสนอแนะจะต้องการร่วมมือการพัฒนาให้มีผลสัมฤทธิ์ในการศึกษามากขึ้นในส่วนหนึ่งจะต้องพัฒนาบุคคลากรของเราเองให้ครูมีความมั่นคงให้มากขึ้นและครูได้รับการพัฒนาในเรื่องของการศึกษาเพื่อที่จะต่อยอดและเติมเต็มจะต้องมีการพัฒนาต่อเนื่องการต่อไป และส่วนที่ยังตัวนักเรียนเองและกระทรวงศึกษาและสช.เองเตรียมกันที่จะทำในเรื่องของหมวดความรู้ที่จะเสริมให้กับคุณครูผู้สอนและเสริมให้กับนักเรียนเพื่อที่จะสอดคล้องให้บริบทที่เหมาะสมให้กับคะแนนที่ก้าวหน้าแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็จะเกิดให้มีความสุขและในส่วนของวัคซีนเป็นทราบกันดีว่า วัคซีนสีส้มมาแล้ว สำหรับเด็กอายุ 5-11ปี อยู่ที่ ศบค. จังหวัดจะต้องมีการรวบรวมว่าเด็กๆจะฉีดอย่างไร แต่อย่างไรก็ตามเราจะต้องขอความเมตตาการสนับสนุนของผู้ปกครองเพราะว่าจะต้องมีการยินยอมและเชิญชวนฉีดวัคซีนกันเถอะคะเพื่อที่จะสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อที่จะทำให้พวกเราพ้นวิกฤตตรงนี้ไปด้วยกันเมื่อโควิดผ่านไปทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งเศรษฐกิจ ทั้งสังคม ทั้งความอยู่รอดของโรงเรียนเอกชนและทุกมิติยั่งยืนมากขึ้น
กรียา เต๊ะตานี /จ.นราธิวาส