“นายกฯตู่” ปลื้มไทยติดอันดับ 26 ประเทศที่รับมือโควิดดีที่สุด!

"นายกฯตู่" ปลื้มไทยติดอันดับ 26 ประเทศที่รับมือโควิดดีที่สุด!

นายธนกร กล่าวว่า ในการนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้รับทราบการจัดลำดับดังกล่าว ชื่นชมถึงการทำงาน และขอบคุณทุกหน่วยงานร่วมกันทำงานอย่างหนักจนเห็นผลของความสำเร็จ จากตัวเลขผู้เสียชีวิตที่มีระดับต่ำ และมาตรการควบคุมที่เข้มงวดแต่เปิดให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้จนเห็นแนวทางของการพัฒนาว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้ดีขึ้น และที่ขาดไม่ได้ ขอบคุณประชาชนทุกคนที่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาล ดูแลตนเอง คนใกล้ชิด และร่วมปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดโดย ศบค. ตลอดมาจนสถานการณ์ในประเทศไทยอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้

นายธนกร กล่าวอีกว่า สำนักข่าวบลูมเบิร์กยังได้เน้นย้ำว่า ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับเพิ่มขึ้นถึง 18 ลำดับ นับตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2564 เนื่องจากสัดส่วนการได้รับวัคซีนของประชาชน จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่น มีการผ่อนคลายมาตรการข้อจำกัดต่างๆ ที่ยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ รวมทั้งนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยจะเติบโตอย่างรวดเร็วในปีนี้ ซึ่งเป็นผลจากการเปิดประเทศและการเปิดรับนักท่องเที่ยวด้วยการใช้มาตรการที่ไม่ต้องกักตัว สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดให้ผู้เดินทาง/นักท่องเที่ยวจากทุกประเทศสามารถลงทะเบียนเพื่อขออนุญาตเข้าประเทศไทยผ่านระบบ Test & Go ได้ นับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป

“นายกฯ ยินดีกับผลการจัดอันดับครั้งนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพทำงานของรัฐบาลตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นผลความสำเร็จจากความร่วมมือ การบูรณาการ หารือต่าง ๆ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์การแพร่ระบาดให้เกิดผลกระทบน้อยสุดต่อประชาชน รวมทั้งต้องประเมินสถานการณ์เป็นประจำอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับแนวทางการทำงานให้สอดรับกับสถานการณ์ในประเทศ และสถานการณ์ในโลก นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการให้ทุกภาคส่วนวางแผนการรับมือกับสถานการณ์อยู่เสมอทั้งในระยะสั้น และระยะยาว โดนเน้นย้ำว่า เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับโควิด-19 อย่างปลอดภัยให้ได้ เป็นไปตามมาตรการทางสาธารณสุข แต่ไม่ทิ้งการพัฒนาเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจซึ่งคาดว่าจะมีการเติบโตอย่างเด่นชัดในเร็ววันนี้ กอปรกับ ให้เตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต” นายธนกรฯ กล่าว

นายธนกร กล่าวว่า ทั้งนี้ รายงานการจัดอันดับดังกล่าวประเมินจาก 12 ปัจจัย ใน 3 หมวดหลัก ได้แก่
1. มาตรการและการดำเนินการต่าง ๆ เพื่อให้กลับมาเปิดประเทศ (Reopening process) เช่น สัดส่วนประชากรที่ได้รับวัคซีน จำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง เป็นต้น
2. สถานการณ์โควิด-19 (COVID Status) เช่น สัดส่วนผู้ป่วยต่อประชากร 100,000 คน สัดส่วนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เป็นต้น
3. คุณภาพชีวิตของประชาชน (Quality of Life) เช่น การเติบโตทางเศรษฐกิจ การจัดการทางสาธารณสุข และดัชนีการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ เป็นต้น

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน
สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
จีนเตือนสหรัฐกำลังเล่นกับไฟหลังส่งอาวุธให้ไต้หวัน
อิลอน มัสก์วิจารณ์แรงผู้นำเยอรมันเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น