น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันที่ 24 สิงหาคม 2565 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นนายกรัฐมนตรีครบปีที่ 8 ซึ่งถือเป็นการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีที่ยาวนานเทียบเท่ากับจอมพล ป.พิบูลย์สงคราม นายกรัฐมนตรีที่มาจากการรัฐประหารเมื่อปี 2491 ซึ่งถือว่านานเกินกว่าที่ประชาชนจะทนไหว แต่ในเดือนพฤษภาคมนี้ ชะตากรรมของพลเอกประยุทธ์ในคราบนักการเมืองสวมเครื่องแบบทหารจะไม่รอด เพราะนอกจากพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 9 หลักสี่ จตุจักร อย่างถล่มทลายแล้ว พรรคพลังประชารัฐยังได้คะแนนต่ำกว่า 3 อันดับแรก จากนี้ไปจะมีเหตุการณ์สำคัญหลายอย่างที่อาจจะเป็นตัวชี้วัดตัดสินอนาคตทางการเมืองของพลเอกประยุทธ์และองคาพยพว่ากำลังจะถึงเวลาดับลงแล้ว เพราะก่อนปิดสมัยประชุมสภาในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลแบบไม่ลงมติต่อประสภาผู้แทนราษฎร ตามมาตรา 152 หรือการเลือกตั้งผู้ว่า กทม.ที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม 2565 รัฐบาลกำลังจะถูกบีบจากทุกทางแล้ว
น.ส.อรุณี กล่าวว่า ตั้งแต่วันแรกที่พลเอกประยุทธ์เข้ามาบริหารประเทศจากการเป็นหัวหน้าคณะรัฐประหารที่ชื่อ คสช. จนถึงปัจจุบัน ไม่มีวันไหนเลยที่ประชาชนจะกินอิ่ม นอนหลับ มีเงินในกระเป๋า มีงานทำ หากดูปัญหาในเดือนมกราคม 2565 เพียงเดือนเดียว มีปัญหาในเชิงสังคม คุณภาพชีวิต ปัญหาเศรษฐกิจและการเมือง ที่รอการแก้ไขมากมาย ทั้งโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร การระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนอุบัติเหตุตำรวจ คฝ.ขับรถมอเตอร์ไซต์ด้วยความประมาทบนทางม้าลาย การออกมาตรการเก็บภาษีการลงทุนในตลาดคริปโต รวมถึงความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐที่ทำให้ต้องขับร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า และ ส.ส.อีก 20 คนออกจากพรรค ทุกอย่างคือหลักฐานที่ชัดเจนว่า ไม่มีเรื่องใดเลยที่พลเอกประยุทธ์ จะแก้ไขปัญหาได้สำเร็จ จึงขอให้พลเอกประยุทธ์ยอมจำนนโดยดี ปล่อยอำนาจในมือ สยบต่อความต้องการของประชาชน อย่าปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงหยุดเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องและนายทุน โปรดยุบสภาภายในต้นปีนี้ หมดเวลาของทหาร คืนอำนาจประชาชนไปสู่การเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว
“ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก โควิด-19 ยังคงระบาดในไทย ผู้ติดเชื้อยังสูง อยู่ที่ 7,000-8,000 คนต่อวัน แต่พลเอกประยุทธ์แทงสวน จะเปลี่ยนโควิดเป็นโรคประจำถิ่น ทั้งที่องค์การอนามัยโรคเพิ่งประกาศว่าโควิดยังไม่จบลงง่ายๆ และรัฐบาลยังไม่ได้ชดเชยผู้ประกอบการที่ถูกปิดกิจการในรอบแรกครบถ้วน การดำเนินชีวิตแบบปกติที่ปลอดภัยสมควรต้องทำ แต่รัฐบาลไม่ควรปัดความรับผิดชอบ ทุกคนต้องได้หน้ากากอนามัยฟรี ATK ฟรี ตรวจฟรี รักษาฟรี” น.ส.อรุณี กล่าว