จากกรณี นายธวัชชัย หรือตูมตาม แก้วนพรัตน์ อายุ 30 ปี ถูกตำรวจ สภ.เกาะสมุย จับกุมในคดียาเสพติดเมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมา ในพื้นที่ตำบลแม่น้ำ อำเภอเกาะสมุย พร้อมด้วยยาเสพติด และได้ต้องขังในเรือจำอำเภอเกาะสมุย ต่อมา ผู้ต้องขังรายนี้ ติดเชื้อโควิด-19 ทางเจ้าหน้าที่เรือนจำอำเภอเกาะสมุย ได้นำตัวนายธวัชชัย ผู้ต้องขัง เข้าทำการรักษาโควิด ที่โรงพยาบาลเกาะสมุย และเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมา ระหว่าง นายธวัชชัย ผู้ต้องขัง ที่รักษาตัว ได้อาศัยช่วงเวลาที่อยู่ในโรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่เผลอ ได้แอบหลบหนีออกไป ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า
ล่าสุดเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด จ.สุราษฎร์ธานี พร้อม พ.ต.ต.วรรณชัย สุขแจ่ม สวป. ร.ต.อ.ภานุมาศ ชูเกื้อ สว.สส. ได้ทำการควบคุมตัว นายธวัชชัย หรือูมตาม แก้วนพรัตน์ อายุ 30 ปี ผู้ต้องรายนี้ได้แล้ว ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ 1 ตำบลแม่น้ำ อำเภอเกาะสมุย ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังกันออกค้นหา และกดดันไล่ล่าผู้ต้องขังรายนี้ตลอดเวลา 2 วันที่ผ่าน จนผู้ต้องหาทนแรงกดดัน จากทางเจ้าหน้าที่ไม่ไหว ติดต่อขอเข้ามอบตัว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับควบคุมตัวมาที่ สภ.บ่อผุด ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยเครื่องตรวจ ATK ผลตรวจออกมาไม่พบเชื้อ และเตรียมส่งตัวมอบตัวให้กับทางเจ้าหน้าที่เรือนจำอำเภอเกาะสมุย รับตัวไปควบคุมต่อ และเตรียมดำเนินคดีข้อหาหลบหนีการควบคุม ของเจ้าหน้าที่เรือนจำต่อไป
โดยนายธวัชชัย แก้วนพรัตน์ ผู้ต้องขังชายรายนี้ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังถูกเจ้าหน้าที่จับกุมว่า ตนเองเกิดความเครียด เรื่องคดีที่ถูกจับกุมในข้อหายาเสพติด บวกกับคิดถึงลูกและภรรยา จึงได้ทำการหลบหนีออกจากห้องกักตัวรักษาโรคโควิด-19 ของโรงพยาบาลเกาะสมุย จากนั้นก็ได้หลบหนี ไปหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าเชิงเขา ตั้งแต่คืนวันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมา ส่วนโซ่ตรวนที่ติดอยู่ที่ข้อเท้า ตนเองได้แอบเข้าไปขโมยใบเลื้อยในบ้านของชาวบ้าน และทำการเลื้อยโซ่ตรวนออกจากข้อเท้า แล้วก็หลบซ่อนตัวอยู่ในป่าเชิงเขา ไม่ได้กินข้าวและน้ำ ทนความหิวไม่ไหว และทนแรงกดดัน จากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ไหว จึงได้ติดต่อมาทางภรรยา ให้ภรรยาติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอเข้ามอบตัวดังกล่าว โดยตนเองก็สำนักผิดกับเรื่องที่ได้กระทำลงไป ก็อยากขอโทษเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ร่วมทั้งภรรยาและลูก ที่ตนเองคิดผิดเองที่ได้ทำการหลบหนีในครั้งนี้
ขณะเดียวกันทางด้าน นายสามารถ เสงี่ยมไพศาล ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอเกาะสมุย เปิดเผยว่า หลังจากรับมอบตัวผู้ต้องขังรายนี้แล้ว ก็จะนำไปควบคุมตัวที่เรือนจำอำเภอเกาะสมุย และก็จะมีการแจ้งความดำเนินคดีในส่วนที่ผู้ต้องขังหลบหนีการควบคุมของเจ้าหน้าที่เรือนจำต่อไป ส่วนหลังจากนี้ทางเรือนจำเองก็จะเพิ่มมาตรการที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้นในส่วนที่ มีความจำเป็นต้องนำตัวผู้ต้องขังมารักษาที่โรงพยาบาล เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก เหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้ถือว่าเป็นบทเรียนครั้งสำคัญที่จะต้องนำบทเรียนครั้งนี้ไปสู่การแก้ไขต่อไป