วันนี่้ (4 ก.พ.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา นายวิชวุทช์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ร่วมกับตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี และกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธา เข้าตรวจสอบจากกรณีมีผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ บุ๋มโอ๊ต โพสต์ลงในกลุ่ม Grabสุราษฎร์ธานี กระบี่ ว่า ใครเคยมาส่งบ้านหลังนี้บ้างครับ ซอย ขุนทะเล24 ผมเอามาเเขวนไว้ตั้งเเต่วันจันทร์ ลุงยังไม่มาเอาไปกินเลย ตอนนี้เเขวนเต็มรั้วบ้าน เเกก็ไม่ออกมาเอา พร้อมภาพอาหาร 2 – 3 ถุงถูกแขวนไว้ที่รั้วบ้าน จนมีพนักงานแกร๊บที่เคยมาส่งอาหารมาแสดงความคิดจำนวนมาก ต่างระบุว่าจะมีลูกสาว และลูกชายเป็นผู้สั่งอาหารให้นำไปส่งไว้ให้ ต้องส่งเสียงเรียกดังๆ ปกติจะออกมาเอา รวมถึงมีเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียงและผู้คนแสดงความคิดเห็นเป็นห่วงจำนวนมาก
โดยบ้านหลังดังกล่าว อยู่ในซอยขุนทะเล 24 หมู่ที่ 3 ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี กู้ภัย พร้อมตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบและให้การช่วยเหลือหลังรับแจ้ง พบรั้วบ้านถูกล็อกกุญแจไว้มีอาหารจำนวน 2-3 ถุง ถูกแขวนทิ้งไว้ที่รั้วบ้าน ส่วนประตูบ้านเปิดและไฟในบ้านเปิดอยู่ โดยมีชายชราผมขาว สวมเสื้อสีขาว กางเกงขาสั้น เอาหน้าตั้งไว้บนเตียงไม้ นั่งอยู่บนพื้นที่เต็มไปด้วยของเสียจากร่างกาย กลิ่นคละคลุ้ง ไร้เรี่ยวแรง ศีรษะบริเวณเหนือคิ้วซ้ายแตกมีคราบเลือด ทราบชื่อต่อมาคือ คุณตาทองลิ้ม แซ่แต้ อายุประมาณ 80 ปี อาศัยอยู่ลำพัง จะมีลูกๆ ค่อยสั่งอาหารผ่าน แกร๊ปฟู๊ดนำมาส่งไว้ที่รั้วหน้าบ้านและคุณตามารับก่อนนี้ แต่เนื่องจากมีอาหารแขวนหลายถุงจึงเป็นที่ผิดปกติ
นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี ทราบเรื่อง แจ้งให้กู้ภัยและจนท.ตำรวจลองประสานญาติ หากประสานไม่ได้ให้นำส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีก่อน และประสาน พม.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้ติดตามกรณีดังกล่าวเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด
ส.อ.ณัฐวุฒิ คณิตธนันต์ กู้ภัยที่ร่วมตรวจสอบ จึงได้พยายามติดต่อประสานลูกๆ ตามเบอร์โทรศัพท์ที่เพื่อนบ้านมี จนสามารถประสานลูกชายซึ่งแจ้งว่าอยู่ จ.สงขลา ส่วนน้องสาวอยู่ในเมืองสุราษฎร์ธานีขับรถไม่ได้ไม่สะดวกเดินทางมาให้งัดประตูเข้าไปนำพ่อส่งโรงพยาบาลได้เลย จึงได้ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
ด้านส.ต.อ.อภิชาติ บุญสิน ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ก.ป้องกันปราบปราม สภ.เมืองสุราษฎร์ธานีกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ประมาณ 5 เดือนได้รับแจ้ง ก็งัดประตูเข้าช่วยเหลือ อาบน้ำ และนำส่งรพ. ประสานญาติเช่นนี้เหมือนกัน
ขณะที่เพื่อนบ้าน บอกว่า ตาอาศัยอยู่คนเดียว ทุกๆ วันก็พยายามเดินมาเรียก แต่อนาถใจเหลือเกินกับภาพที่เห็น หากเป็นตนเองต้องตกชะตากรรมเช่นนี้คงฆ่าตัวตายแล้ว มันรับไม่ได้ หดหู่ใจมากในฐานะที่เป็นพ่อแม่คน
ล่าสุดเช้านี้ (4 ก.พ.65) ทางสำนักข่าว Top news ได้สอบถามไปยัง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สุราษฎร์ธานี ทราบว่า ขณะนี้นายทองลิ้ม แซ่แต้ กลับมาอยู่ที่บ้านแล้ว หลังจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยวันนี้ทาง พมจ.สุราษฎร์ธานี ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าเยี่ยมติดตามอาการและดูแลเรื่องความเป็นอยู่ พร้อมหาทางออกในการดูแลต่อไป