ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2565 ที่วัดพัฒนาธรรมาราม หรือที่ชาวบ้านรู้จักในนาม”วัดหลวงปู่เฮง และวัดบ้านด่านช่องจอม” บ.ด่าน ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ หลวงปู่เฮง ปภาโส เกจิดังอีสานใต้ เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมาราม ได้เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในพิธี พุทธาภิเษกเหรียญวัตถุมงคล”รุ่นมงคล 8 รอบ บูชาครูอายุวัฒนมงคล 96 ปี หลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมมาราม” จัดสร้างขึ้นทั้งหมด 3 พิมพ์ ประกอบด้วย พิมพ์ไข่,พิมพ์เสมา,พิมพ์ท้าวเวสสุสรรณ จัดสร้างโดย ว่าที่ร้อยตรี เอกพงศ์ เข็มทอง หรือ”โก๋ สุรินทร์” (ชัดเจน) และมีการประกอบพิธีพุทธาภิเษกอย่างเข้มขลังมากถึง 7 วารระ มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่
โดยมีเนื้อของวัตถุมงคลและรูปแบบให้พุทธศาสนิกชน เลือกบูชาหลากหลายรูปแบบ อาทิ เนื้อทองคำหน้ากากทองคำขาวลงยาเขียว-แดง,เนื้อทองคำหน้ากากทองคำลงยาน้ำเงิน-แดง,เนื้อเงินไข่ทองคำลงยาแดง-เขียว,กะหลั่ยเงิน / กะหลั่ยทอง หลังเรียบ ตอกเลข 1-22,เนื้อเงินนำฤกษ์หน้าทองคำเต็มแผ่น,เนื้อเงินนำฤกษ์ชุบทองจิวเวลรี่หน้ากากทองคำลงยาพื้นแดง-ขาว-แดง และอื่นๆอีกหลายรูปแบบเป้นต้น สามารถติดต่อบูชาและขอทราบรายละเอียดได้ที่ โก๋ สุรินทร์ (ชัดเจน) โทร.061-0703559 ทั้งนี้ภายในงานมีนายล้ำเลิศ พัวพัฒนโชติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากการประกอบพิธีพุทธาภิเษกดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว ว่าที่ ร.ต.เอกพงศ์ เข็มทอง พร้อมด้วยคณะศิษยานุศิษย์ได้มอบเงินจำนวน 1 ล้าน 5 แสนบาท ถวายให้กับหลวงปู่เฮง เพื่อสมทบทุนสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ และได้มีการแจกเหรียญวัตถุมงคลให้กับพุทธศาสนิกชนฟรี โดยมีพุทศาสนิกชนหลั่งไหลเดินทางมาต่อคิวเข้าแถวเพื่อรับวัตถุมงคลจำนวนมาก ทามกลางมาตรการรักษาระยะห่างและป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวดอีกด้วย นอกจากนี้ประชาชนนักเสี่ยงโชคต่างไม่พลาดที่จะนำเอาเลขอายุของหลวงปู่เฮง คือ 96 ปี และ พ.ศ.เกิดคือ 2470 ไปจับคู่ตีเป็นเลขเด็ดเพื่อเสี่ยงโชคในงวดที่จะถึงนี้ ขณะเดียวกันหลวงปู่เฮงได้พูดเปรยถึง พ.ศ.ก่อตั้งเมืองสุรินทร์ นักเสี่ยงโชคก็ไม่พลาดที่จะเอาปริศนาดังกล่าว ไปตีเป็นเลขเด็ด ซึ่งพากันเสิร์ตในอินเทอร์เน็ตดู พบว่าปี พ.ศ. 2329 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อเมืองประทายสมันต์เป็นเมืองสุรินทร์ จึงต่างไม่พลาดที่จะเอาเลข 2329 ไปเสี่ยงโชคในงวดที่จะถึงนี้ ส่วนบรรดาพ่อค้าแม่ค้าขายล็อตเตอรี่ที่ขายอยู่บริเวณวัดต่างก็ขายดีไม่แพ้ๆกัน
ว่าที่ ร.ต.เอกพงศ์ เข็มทอง กล่าวว่า รุ่น มงคล 8 รอบ บูชาครู อายุวัฒนมงคล 96 ปี หลวงปู่เฮง ปภาโส วาระครบ 8 รอบ จัดสร้างทั้งหมด 3 พิมพ์ มีพิมพ์ไข่ เนื้อทองคำ สร้างจำนวน 11 องค์ แบบหลังเรียบอีก 3 องค์ จัดสร้างทั้งหมดของเหรียญไข่ ประมาณ 8 พันกว่าองค์ พิมพ์ที่ 2 จะเป็นเสมา 8 รอบบูชาครู จำนวนสร้างเนื้อทองคำ 11 องค์ และแบบลิมิเต็ด อีก 3 องค์ ตอกตอง 111,888,999 แบบหลังเรียบ จำนวนสร้างของพิมพ์นี้ 8 พันกว่าองค์เช่นกัน พิมพ์สุดท้ายจะเป็นพิมพ์แจก ท้าวเวสสุววรณ เนื้อทองคำสร้างทั้งหมด 3 องค์ ตอกตอง 111,888,999 เป็นเหรียญแจกในพิธีจะเป็นเนื้อทองแดงที่แจก จำนวนสร้างทั้งหมด 7 พันกว่าองค์ สรุปรุ่น มงคล 8 รอบ บูชาครู สร้างทั้งหมด 3 พิมพ์ เท่านั้น วัตถุประสงค์ของการสร้าง เพื่อร่วมสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ ถวายปัจจัยให้ท่าน 1,500,000 บาท (หนึ่งล้านห้าแสนบาท)ขอขอบคุณศิษยานุศิษย์ทั่วประเทศ ที่เห็นในความตั้งใจของตน มาร่วมบุญในครั้งนี้ด้วยกัน การสร้างวัตถุมงคลในครั้งนี้ หลวงปู่ท่านอธิฐานจิตให้ 7 วาระ และสำหรับผู้ที่ร่วมบุญบูชายกลัง เราจะแถมมีดหมอให้ด้วย 1 เล่ม โดยวัตถุมงคลที่สร้างทั้งหมดในครั้งนี้ คือ 7 วาระ ท่านที่สนใจสามารถสั่งจองได้ที่ศูนย์สั่งจองทั่วประเทศ ทางไลฟ์สด หรือติดต่อมาที่ทางผมได้เลย เบอร์โทร 061-0703559
สำหรับหลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมารามหรือวัดบ้านด่านช่องจอม สิริอายุ 96 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น เทพเจ้าแห่งโชคลาภของแดนดินถิ่นอีสานใต้ วัดตั้งอยู่ที่ บ้านด่านช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ หลวงปู่เฮงฯเกิดเมื่อ เดือนสิงหาคม 2470 ปีเถาะ พ่อแม่เป็นชาวกัมพูชา แต่ได้อพยพมาอยู่ประเทศไทยในสมัยที่ฝรั่งเศสปกครอง โดยย้ายมาอยู่หมู่บ้านปราสาท ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ประกอบอาชีพทำนาทำสวน มีพี่น้องด้วยกัน 13 คน เป็นบุตรคนที่ 7 ที่หมู่บ้านปราสาท ในวัยเด็กอายุประมาณ 13-14 ปี พระอาจารย์เฉิด ธัมมกโร ลูกพี่ลูกน้องของหลวงปู่เฮง เดินทางธุดงค์มาจากประเทศกัมพูชา เข้ามาเยี่ยมญาติ พี่น้องที่ประเทศไทย บอกจะเดินธุดงค์ไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะไปได้ขอกับแม่ของท่าน โดยขอให้น้องไปด้วย และจะได้สอนให้ได้หัดเรียนเขียนอ่านหนังสือทำให้ได้ศึกษาอักษรขอมศาสตร์วิชาแขนงต่างๆ ตั้งแต่บัดนั้น ศึกษากับพระอาจารย์เฉิด พระพี่ชายและออกธุดงค์ไปด้วยเสมอ จนอายุ 15 ปี ได้กลับมาบ้านและบวชเรียนเป็นเณร เรียนภาษาไทย ขอม และภาษาบาลี เพิ่มเติม สอบได้นักธรรมโท ครั้นอายุ 21 ปี ไปเป็นทหารที่กรมทหารม้า จ.ลพบุรี เลี้ยงม้าขี่ม้าอยู่ 3 ปี หลังปลดประจำการก็ท่องเที่ยวไปเรื่อย
ช่วงชีวิตหนึ่งของท่านท่องเที่ยวไปทั่ว และไปอยู่ประเทศกัมพูชา จนกระทั่ง พ.ศ.2495 ได้ย้ายไปอยู่ จ.จันทบุรี มีโอกาสพบกับหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จึงตัดสินใจบวช หลวงพ่อคงได้ถ่ายทอดวิทยาคม อักขระเลขยันต์ ภาษาขอม เขียนผงลบผง สักยันต์ และคาถาต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะคาถาคงกระพันชาตรี ย่นระยะทาง มุ่งมั่นศึกษาจนมีความชำนาญ กระทั่งหลวงพ่อคงไว้ใจให้เขียนยันต์ อักขระแทน และเข้าร่วมปลุกเสกด้วย
พ.ศ.2532 หลวงพ่อคงมรณภาพ จึงได้รับการแต่งตั้งเป็น เจ้าอาวาสวัดวังสรรพรสแทน แต่อยู่ได้เพียง 6 พรรษา ก็ขอลาออกและธุดงค์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งกลับมาบ้านเกิดอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านด่านช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จนถึงปัจจุบัน เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวอีสานใต้และชาวกัมพูชาแถบชายแดน ให้ความเลื่อมใสศรัทธา ด้วยเป็นพระที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรมยามได้รับกิจนิมนต์ไปงานบุญต่างๆ ไม่เคยปฏิเสธ แม้ว่าอายุจะย่างเข้าสู่วัยชราและมีปัญหาด้านสุขภาพตามวัย
อีกทั้งเมื่อท่านรับกิจนิมนต์แล้วท่านจะต้องเดินทางไปถึงสถานที่งานก่อนเป็นประจำ ส่วนกิจนิมนต์ในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลตามวัดต่างๆ ท่านต้อง เดินทางเข้าร่วมพิธีเสมอ แม้จะไกลหรือจะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด ก็มีความสุขที่ได้ปฏิบัติเช่นนั้น ศิษย์ผู้คอยดูแลปรนนิบัติก็ไม่สามารถ ทัดทานได้
ด้านวัตถุมงคลที่อธิษฐานจิตปลุกเสกนั้น ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์เล่าขาน ทำให้บรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องวัตถุมงคลต่างเสาะแสวงหามาบูชาครอบครองติดตัวเกียรติคุณบารมี รวมทั้งพุทธาคมและพลังจิตของท่าน ทำให้ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดสุรินทร์และแดนดินถิ่นใต้อีกด้วย.
ภาพ/ข่าว กฤษดากร กีรติธำรงค์เจริญ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์