ผู้ว่าฯ เมืองคอน สั่งสนธิกำลังบุกจับ 2 สถานบันเทิง! ไม่สนโลกเปิดเต็มรูปแบบ

วันนี้ (9 ก.พ.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับการร้องเรียนต่อเนื่องว่ามีสถานบันเทิง 2 แห่งในย่านถนนพัฒนาการคูขวาง เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ทุกชนิด และยังเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยไม่สนใจ พ.ร.บ.โรคติดต่อ, พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คำสั่งหรือมาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดแม้แต่น้อย เป็นการท้าทายกฎหมายบ้านเมืองอย่างชัดเจน

โดยเมื่อเวลา 23.30 น. คืนที่ผ่านมา ( 8 ก.พ.) ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช สนธิกำลังตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด และ อส.ตร.สภ.เมืองกว่า 50 นาย เข้าทำการตรวจสอบจับกุมทันที

ภายในบริเวณร้านแรกพบนักเที่ยวจำนวนกว่า 300 คน นั่งแออัดยัดเยียด ดื่มกินกันกันเต็มที่ โดยมีเปิดเพลงดังดังกระหึ่มได้ยินไปจนถึงถนนใหญ่ มีระบบแสงสีระยิบระยับ เมื่อเห็นกำลังเจ้าหน้าที่จึงรีบปิดเครื่องเสียง และระบบไฟแสงสีทันที จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่ามีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลายประเภทโดยใส่แก้วพลาสติก และเหยือกเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ แต่พบว่าในบิลของแต่ละโต๊ะมีรายการสั่งเหล้าและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เขียนระบุไว้อย่างชัดเจน และเมื่อตรวจสอบในลังโฟมขนาดใหญ่พบว่ามีการนำขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แช่เย็นเอาไว้จำนวนมาก ในขณะที่ด้านข้างเคาน์เตอร์พบขวดเหล้า เบียร์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลายชนิด ซึ่งเป็นขวดเปล่านับพันขวดมาวางกองเอาไว้เป็นภูเขาย่อม ๆ จึงควบคุมตัวหุ้นส่วนเจ้าของและผู้จัดการร้านไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

ข่าวที่น่าสนใจ

หลังจากนั้นกำลังเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบจับกุมสถานบันเทิงแห่งที่ 2 ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 300 เมตร พบนักเที่ยวรวมกว่า 100 คนนั่งดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน และมีการจำหน่ายเหล้า เบียร์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใส่แก้วพลาสติกและเหยือกเช่นเดียวกัน แต่ในบิลของแต่ละโต๊ะลงระบุไว้ชัดเจนเช่นกัน โดยขวดเหล้าเบียร์ของแต่ละโต๊ะจะมีกระดาษปิดทับระบุชื่อโต๊ะนำมาเก็บไว้ในชั้นใต้เคาน์เตอร์ จะไม่วางขวดเหล้าเบียร์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้บนโต๊ะ พนักงานเสิร์ฟจะมาผสมเหล้าจากเคาน์เตอร์ใส่แก้วพลาสติกหรือเหยือกไปส่งให้ตามโต๊ะแทนการไปบริหารผสมหรือชงเหล้าที่โต๊ะ ในขณะที่มีการนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำนวนมากแช่เย็นไว้ในลังโฟมขนาดใหญ่เช่นกัน จึงควบคุมตัวผู้จัดการร้านไปสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 01.30 น. วันที่ 9 ก.พ.2565 ที่ สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ในขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมกำลังเร่งทำบันทึกจับกุมเพื่อรวบรวมส่งผู้ต้องหาให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ปรากฏว่าได้มีพลเมืองดีถ่ายภาพและคลิปบรรยากาศ 1 ใน 2 ร้านที่ถูกจับกุมแต่ยังเปิดให้บริการอย่างเย้ยกฎหมาย แม้จะล่วงเลยมาจนเกือบถึง 02.00 น.ของวันใหม่แล้วก็ตาม ส่งเข้ามาในกลุ่มไลน์ของเจ้าหน้าที่ นายนันทวัฒน์ กิตติพันธ์พัฒนา ปลัดหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมือง และ พ.ต.ท.ธีระพล พุ่มชัย รอง ผกก.ป. จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่เดินกลับไปตรวจสอบจับกุมอีกครั้ง และสั่งให้ปิดการให้บริการอย่างเด็ดพร้อมสั่งดำเนินคดีเพิ่มเติมในข้อหาขายสุรานอกเวลาที่กำหนด และความผิดตาม พ.ร.บ.โฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ด้าน พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ ผกก.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าทางเจ้าหน้าที่เข้าใจและเห็นใจผู้ประกอบการสถานบันเทิงทุกแห่ง แต่เมื่อมีมาตรการ และคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดที่รัฐบาลออกมาตรการและคำสั่งออกมาให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด เจ้าหน้าหน้าที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับสถานประกอบการที่ฝ่ามาตรการและคำสั่ง โดยที่ผ่านมา สถานประกอบการต่าง ๆ ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่สถานประกอบการทั้ง 2 แห่งไม่สนใจใยดีแม้จะเคยถูกจับกุมมาแล้วหลายครั้ง แต่ยังจงใจฝ่าฝืนและเปิดให้บริการเต็มรูปแบบสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดเป็นอย่างมาก และจะเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปสั่งให้ปิดนักท่องเที่ยวยามราตรีนับร้อยคนทำการการโห่ร้องขับไล่เจ้าหน้าที่ ทำเหมือนบ้านเมืองไร้กฎหมาย จนต้องลงไปควบคุมสั่งการด้วยตนเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทุกครั้งที่มีการตรวจสอบจับกุมสถานบันเทิงในตัวเมืองนครศรีธรรมราช พ.ต.ท.ธีระพล พุ่มชัย รอง ผกก.ป. นายนันทวัฒน์ กิตติพันธ์พัฒนา ปลัดหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมือง ถูกกระแสสังคมโดยกลุ่มสถานประกอบการ ร้านอาหาร สถานบันเทิง และบรรดานักดื่ม กดดันอย่างหนัก มีการโพสต์ในโลกโซเชียลรุมดุด่า ประณามอย่างรุนแรงและหยาบคายในทำนองว่าบุคลทั้งสองเป็นตัวการที่สั่งตรวจสอบจับกุม หรือปิดร้านอาหาร สถานบันเทิง ทั้ง ๆ ที่บุคคลทั้งสองเป็นแค่ผู้ปฏิบัติในระดับล่าง และพยายามที่จะให้คำแนะนำช่วยเหลือผู้ประกอบการต่าง ๆ มาโดยตลอด บุคคลทั้งสองจึงกลายเป็นหนังหน้าไฟรับหน้าแทนผู้หลักผู้ใหญ่ในพื้นที่ลอยตัวไม่ได้รับผลกระทบใดแม้แต่น้อยมาโดยตลอด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น