นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเครือข่ายขับไล่ประยุทธ์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กช่วงหนึ่ง ข้อความว่า ภายในรัฐบาลประยุทธ์วันนี้มีความขัดแย้งเกิดขึ้นจริง และคู่ขัดแย้ง ก็ไม่ใช่พลเอกประยุทธ์กับร้อยเอกธรรมนัส แต่เป็นระหว่างพลเอกประยุทธ์กับพลเอกประวิตร เพียงแต่ฝ่ายของพลเอกประวิตรมีร้อยเอกธรรมนัสเป็นตัวเดิน เป้าหมายของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ ก็มีความรุนแรงถึงขั้นพังกันไปข้างหนึ่ง จากเดิมที่ฝ่ายของพลเอกประวิตร อาจต้องการเพียงที่จะจัดสรรอำนาจใหม่ จัดระเบียบอำนาจในฝ่ายรัฐเสียใหม่ให้กลุ่มตัวเองพวกตัวเองอยู่ในสถานะที่แข็งแรงกว่านี้ หรืออย่างน้อยที่สุดให้ขั้วอำนาจของตัวเองเป็นเหมือนตอนรัฐบาล คสช. ยุคแรกๆ
ณัฐวุฒิ ฟันธง “บิ๊กตู่” แตก “บิ๊กป้อม” เดิมพันสูงบีบพ้นอำนาจ จับตา ‘พรรคร่วมรัฐบาล’ ส่อ ‘ถอนเอาแต้ม’ ยกขบวน ‘เท’ หนีพ้น ครม.
ข่าวที่น่าสนใจ
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า หลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน มันมีเหตุการณ์ที่ถึงขั้นเป็นคดีพยายามฆ่า หมายความว่าในเหตุการณ์นั้นฝ่ายร้อยเอกธรรมนัสและพวก เตรียมจะโหวตล้มพลเอกประยุทธ์ ความวางไว้วางใจสนิทแนบแน่นดังเก่าจึงไม่มี พอมันมาถึงปัจจุบันประกอบกับมรสุมรอบด้าน ร้อยเอกธรรมนัสก็พาพรรคพวกออกไปเป็นพรรคเศรษฐกิจไทยแล้วก็กำลังเดินเกมเขย่ารัฐบาลทุกวัน นี่คือเกมที่แรงขึ้น ในช่วงที่รัฐบาลขาลงสุดๆ เหตุการณ์มันบีบให้พลเอกประยุทธ์ต้องตัดสินใจ ความเคลื่อนไหวของซีกพลเอกประวิตร ถ้าล้มได้ก็คงคิดว่าอยากจะล้ม
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การวิเคราะห์ของสื่อมวลชนบางส่วนที่บอกว่า พลเอกประยุทธ์ต้องการจะอยู่ยาว ก็ไม่ผิด เพราะพลเอกประยุทธ์ มีเป้าหมายที่อยากเป็นเจ้าภาพเอเปค อยากเป็นนายกรัฐมนตรีจนครบเทอมแล้วเป็นอีกที แต่ในความเป็นจริงวันนี้พลเอกประยุทธ์อยู่ยากแล้ว ที่บอกว่าจะผ่าทางตันโดยการปรับครม. ให้เก้าอี้ที่ฝ่ายพลเอกประวิตรที่ร้อยเอกธรรมนัสต้องการ จะเป็นจริงไปได้หรือ การปรับ ครม. ยามนี้ใครจะเป็นคนที่ได้แต้ม ? ถ้าพลเอกประยุทธ์ปรับ ครม. ตามที่พลเอกประวิตรหรือร้อยเอกธรรมนัสต้องการก็เท่ากับว่านายกรัฐมนตรีสิ้นสภาพ ลูกน้องตัวเองขู่ได้ บีบได้และได้ตามต้องการด้วย
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ผมจึงเชื่อว่าในความขัดแย้งนี้ไปถึงขั้นว่าพลเอกประยุทธ์ต้องพ้นอำนาจ เวลานี้ฝ่ายที่สมประโยชน์กันอยู่ในรัฐบาล แต่ละพรรคแต่ละกลุ่มเริ่มคิดเหมือนกันว่า ให้ความพังทั้งหมดใน 8 ปีไปลงที่พลเอกประยุทธ์คนเดียว ต่อให้เสกสกลไปทำพรรคการเมือง มีคำถามง่ายๆ ว่า ‘ใครจ่าย ใครจัดการพรรคการเมือง’ นี้
“ พลเอกประยุทธ์แกเป็นทหารบกแต่แกนุ่งกางเกงทหารเรือ ซึ่งไม่มีกระเป๋า ดังนั้นพลเอกประยุทธ์ไม่ควักจ่ายแน่ๆ ไม่เหมือนพลเอกประวิตรที่แม้จะเป็นทหารบกแต่นุ่งกางเกงรบพิเศษ กระเป๋าเยอะเต็มขาไปหมด และแม้พลเอกประวิตรอาจเดินช้าแต่ควักเร็วแน่นอน นี่อาจจะเป็นฉายา ‘ป้อมโอนไว’ ฉะนั้นในพรรคพลังประชารัฐ ในขุมอำนาจ คสช.ทั้งหมดตลอด 8 ปีที่ผ่านมาทุนถึงมาจากพลเอกประวิตร” นายณัฐวุฒิ กล่าว
วันนี้การเมืองกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาของความเปลี่ยนแปลง และเชื่อว่าจะเกิดขึ้นในไม่ช้าไม่นานนัก ประเด็นสำคัญคือประชาชนต้องเท่าทันความเปลี่ยนแปลง แล้วต้องฉกฉวยสิ่งที่ดีที่สุดหรืออย่างน้อยสิ่งที่ดีกว่าในความเปลี่ยนแปลงนี้ให้ได้ สิ่งที่ดีกว่าก็คือการเปลี่ยนขั้วอำนาจจากฝ่ายพลเอกประยุทธ์และพวกกลับมาสู่ฝ่ายประชาธิปไตย การเลือกตั้งครั้งต่อไป จะเป็นการเลือกตั้งที่เขียนประวัติศาสตร์ของประเทศไทยอย่างสำคัญ ประชาชนต้องตัดสินใจกันดีๆ แล้วก็ต้องตัดสินใจโดยพิจารณาเหตุผลให้รอบคอบรอบด้าน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-