สำหรับสถานการณ์คราบน้ำมันดิบรั่วไหลลงทะเลระยอง มาถึงวันนี้ (18 ก.พ.65) ยังจบไม่ลง จะเห็นได้จากมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังคราบน้ำมันตามชายหาดทะเลต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณชายหาดแม่รำพึง ยังพบคราบน้ำมันดิบ ซึ่งมีลักษณะเป็นฝุ่นเขม่าสีดำถูกคลื่นพัดขึ้นมาเกาะติดตามชายหาดเกลื่อนหลายจุด เจ้าหน้าที่ต่างเร่งออกทำการเก็บกวาด ทั้งนำบูมดูดซับมาลากเพื่อดูดซับคราบน้ำมันและเก็บกวาดขยะมูลฝอยต่าง ๆ ออกจากชายหาด
ข่าวที่น่าสนใจ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พบว่ามีคราบน้ำมันที่มีลักษณะเป็นฝุ่นเขม่าสีดำขึ้นเกาะติดตามชายหาดแม่รำพึงอยู่ 2 จุด ยาวกว่า 1 กิโลเมตร คือ บริเวณชายหาดแม่รำพึงช่วงคลองหัวรถ ท้องที่ตำบลตะพง และบริเวณช่วงคลองเขาสาป ท้องที่ตำบลเพ ด้านผู้ประกอบการร้านอาหารตามหาดแม่รำพึง ยอมรับว่า ปัญหาน้ำมันรั่วทะเลระยองได้ส่งผลกระทบอย่างหนัก เพราะนักท่องเที่ยวต่างพากันหนีไปเที่ยวอื่นหมด จนขายของไม่ได้หนักยิ่งกว่าโควิดเสียอีก
ส่วนการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ นั้น ได้ ใช้เรือตรวจการณ์เจ้าท่าออกลาดตระเวนตรวจสอบคราบน้ำมันอยู่เป็นระยะ และไม่เจอคราบน้ำมัน นอกจากนี้ยังมีการใช้ Drone บินตรวจสอบฟิล์มน้ำมันในทะเล ไม่พบคราบฟิล์มน้ำมันแต่ยีงมีการเฝ้าระวังคราบฟิล์มน้ำมัน โดยมีเรือร่วมปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 32 ลำ ประกอบด้วย เรือกางทุ่นกักน้ำมันจำนวน 15 ลำ ดำเนินการกางทุ่นกักน้ำมัน (Boom) จำนวน 8 เส้น เรือเฝ้าระวัง จำนวน 15 ลำ เรือสั่งการ จำนวน 1 ลำ เรือตรวจทางอากาศ (Drone) จำนวน 1 ลำ ไม่พบคราบน้ำมันในทะเลแต่อย่างใดมีการใช้เรือเพื่อตรวจสอบ และเฝ้าระวังคราบฟิล์มน้ำมันในทะเล ตลอดแนว ห่างจากชายฝั่ง 1 – 2 กม. ไม่พบคราบฟิล์มน้ำมัน ได้ย้ายบูม 2 ปาก ไปยังบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล เพื่อเฝ้าระวัง
ส่วนจุดที่เป็นต้นเหตุของน้ำมันรั่วได้เตรียมการเพื่ออุดรอยรั่วท่ออ่อนฯ คาดว่าจะได้เริ่มดำเนินการภายในสัปดาห์นี้ ส่วนการชดใช้เยียวยา อยู่ระหว่างการจัดทำร่างหลักเกณฑ์การชดเชยค่าเสียหาย โดยแบ่งออกเป็น 4 คือ กลุ่มที่ 1 ด้านกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม ที่พัก และ ร้านอาหาร, กลุ่มที่ 2 ด้านกลุ่มประมง, กลุ่มที่ 3 ด้านสุขภาพ และกลุ่มที่ 4 ด้านกลุ่มผู้ประกอบอาชีพสาขาต่างๆ ทั้งนี้มีผู้ร้องทุกข์กรณีคราบน้ำมันดิบรั่วไหลฯ สะสม ตั้งแต่ 30 ม.ค. – 17 ก.พ. 65 ยอดรวมทั้งจังหวัดระยอง จำนวน 8,302 คน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
