วันนี้(19 ก.พ. 2565) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่า ปัจจุบัน ประชาชนหลากหลายอาชีพไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า ไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจยุคข้าวยากหมากแพงอย่างเช่นปัจจุบัน ทำให้กิจงานงานต่างๆต้องถูกปิดตัวลงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะปางช้างที่ จ.ภูเก็ต ไม่แตกต่างกัน ที่ต้องถูกปิดตัวลงหลายแห่ง ทำให้ควาญช้างที่นำช้างเลี้ยงมาจาก จ.สุรินทร์ เพื่อไปแสดงความสามารถโชว์ให้นักท่องเที่ยวได้ชม ก็ต้องพากันบรรทุกช้างกลับมาบ้านเกิดเพื่อตั้งหลักกันเป็นจำนวนมาก หลังจากต้องอดทนยื้อสู้กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มาตั้งแต่ระลอกแรกไม่ไหว โดยเฉพาะนางสาวภาวนา ศิลป์ชัย 41 ปี และนายยุทธนา ระยาย้อย อายุ 39 ปี ควาญช้างสองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 21 ม.8 บ.โคกไทร ต.บ้านจารย์ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เจ้าของครอบครัวช้าง 3 เชือก ประกอบด้วยแม่ช้างพังสีทอง น้องช้างพังใบบุญ อายุ 2 ปี และน้องช้างพังใบบัว อายุ 5 ปี ที่อดทนสู้ยื้อกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มาตั้งแต่ระลอกแรก และไม่ยอมกลับบ้านเหมือนครอบครัวช้างคนอื่นๆ หวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นตามลำดับ จนถึงการแพร่ระบาดระลอกที่ 2 ทำให้เงินเก็บเริ่มหมดลง และพยายามอดทนอีกสักตั้ง จนมาถึงการแพร่ระบาดในระลอกที่ 3 เห็น จนเห็นว่าทีท่าไม่ดี ถ้าขืนฝืนอยู่ไปก็คงต้องอดตายทั้งคนทั้งช้างเป็นแน่ จึงตัดสินใจกู้ยืมเงินจากคนอื่น เพื่อจ้างเหมารถบรรทุกพาช้างกลับบ้านเกิด เพราะสถานการณ์คงไม่ดีขึ้นและคงไม่จบลงง่ายๆอย่างที่คิด
โดยได้บรรทุกช้างกลับมาบ้านเกิดที่หมู่บ้านโคกไทร ต.บ้านจารย์ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ มาแล้ว 5 เดือน และไม่มีแม้รายได้เลี้ยงครอบครัวและช้างที่มีอยู่ 3 เชือกที่อาหารแทบไม่พอจะกิน จึงพาครอบครัว มาเปิดเพิงขายอาหารเลี้ยงช้างอยู่ข้างทาง ติดทุ่งนา บริเวณถนนสายสังขะ-โคกไทร บ.โคกไทร ต.บ้านจารย์ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นเส้นทางผ่านไปยังตลาดชายแดนช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อขายอาหารเลี้ยงช้าง หารายได้เลี้ยงครอบครัว และซื้ออาหารให้ช้าง แก่กับประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาได้จอดแวะซื้ออาหารเลี้ยงช้าง แม้เส้นทางดังกล่าวจะไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านมากนักก็ตาม แต่ก็ไม่มีหนทางอื่น จึงได้แต่รอคอยความหวังว่าจะมีประชาชนหรือนักท่องเที่ยวผู้ใจบุญที่ผ่านไปมาจะสงสารช้าง แวะจอดรถลงมาซื้ออาหารให้ช้างบ้าง นอกจากนี้ยังพบว่าสองข้างทางของเส้นทางดังกล่าว มีชาวช้างนำช้างมาผูกไว้ข้างทางเพื่อขายอาหารช้างอยู่ 3 จุดด้วยกัน ประชาชนนักท่องเที่ยวสามารถจอดรถแวะซื้อ เพื่อทำบุญช่วยครอบครัวช้างได้ทุกวัน
นางสาวภาวนา ศิลป์ชัย เจ้าของช้าง กล่าวว่า ตนและสามีพาครอบครัวช้างมาขายอาหารเลี้ยงช้างข้างทางมา 2 เดือนแล้ว เมื่อก่อนอยู่ปางช้างภูเก็ต พาน้องช้างอาบน้ำให้นักท่องเที่ยวชมและขายอาหารช้าง ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตั้งแต่รอบแรก ฝืนทนอยู่จนยื้อไม่ไหวมาถึงระลอก 2 และ 3 มีเชื้อใหม่มาเรื่อยๆประคองไว้ไม่ไหวแล้ว จนเงินที่เก็บไว้หมด ต้องกู้ยืมเงินคนอื่นเพื่อจ้างเหมารถบรรทุกนำช้างแม่ลูกกลับมาบ้านเกิด 3 เชือก ก่อนที่จะมีโควิด ก็มีรายได้เดือนละหลายหมื่นบาท โดยกลับมาได้ 4-5 เดือนแล้ว และพึ่งมาขายอาหารช้างข้างทางได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว ผลไม้ที่ขายก็จะมีแตงโม อ้อยบ้าง กล้วยบ้าง ขายตะกร้าละ 35 บาท ช่วงปีใหม่ก็ขายดี หลังจากนั้นก็เงียบมาก ก็ฝากถึงผู้ที่สัญจรผ่านไปมาบนถนนสายโคกไทร-สังขะ ก็แวะซื้ออาหารเลี้ยงน้องช้าง น้องพังใบบุญ กับน้องพังใบบัวด้วยจะขอบพระคุณมาก ถือว่าสงสารช้าง ได้ทำบุญกับสัตว์ใหญ่ ส่วนแม่ช้างได้นำไปผสมพันธุ์ที่ อ.ท่าตูมอยู่ จึงเห็นแค่พี่น้องช้าง 2 เชือกดังกล่าว.
ภาพ/ข่าว กฤษดากร กีรติธำรงค์เจริญ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์