เมื่อวันที่ 19 ก.พ. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า จากที่ได้ติดตามการอภิปรายของนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ และหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมาแล้วรู้สึกว่าอาจจะทำให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เข้าใจผิดได้ ซึ่งยอมรับว่านายศรัณย์วุฒิ ได้มาปรึกษาหารือข้อมูลที่จะอภิปรายเกี่ยวกับตัวเลขทางบัญชีจริงในเรื่องการเรียกคืนคลื่น 2600 จากอสมท. ตนจึงตั้งข้อสังเกตให้นายศรัณย์วุฒิทราบ ซึ่งเป็นการให้คำปรึกษาในฐานะนักบัญชีเท่านั้น ส่วนที่นายศรัณย์วุฒิกล่าวอ้างว่า “…ผมกับอาจารย์เรืองไกรตกลงกันแล้ว…” หรือ “…และผมกับอาจารย์เรืองไกรจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด…” นั้นก็คงเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะนายศรัณย์วุฒิ เป็นส.ส. เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ คงไม่สามารถทำความตกลงกับตนหรือติดตามเรื่องนี้กับตนได้ เพราะตนไม่ใช่สมาชิกพรรคเพื่อชาติ เป็นบุคคลภายนอก หากไปกระทำการใด ๆ ตามที่กล่าวอ้าง ย่อมสุ่มเสี่ยงจะทำให้พรรคเพื่อชาติโดนกล่าวหาว่า ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 28 ตามมาได้ และตัวของตนย่อมเข้าข่ายฝ่าฝืน มาตรา 29 ตามมาอีกด้วย จึงขอปฏิเสธคำกล่าวอ้างในส่วนนี้โดยสิ้นเชิง
“เรืองไกร” แจงไม่เกี่ยว “ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ” อภิปราย ยันเจ้าตัวแค่มาปรึกษาข้อมูลเท่านั้น หวั่น “บิ๊กป้อม” เข้าใจผิด ส่งจดหมายชี้แจงเรียบร้อย
ข่าวที่น่าสนใจ
นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า อีกทั้งในการอภิปรายของนายศรัณย์วุฒิ ที่พาดพิงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนากยรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ รวมทั้งน้องชาย และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตนแต่อย่างใด แต่หากในภายหลังตนพบประเด็นที่ควรตรวจสอบพล.อ.ประวิตร หรือแม้กระทั่งนายกรัฐมนตรี หรือนักการเมืองรายอื่นๆ ก็คงจะดำเนินการด้วยตนเองโดยลำพังดังที่เคยปฏิบัติมา แต่ในกรณีตามที่มีการอภิปรายมาทั้งหมดนั้น ยังไม่เห็นมูลกรณีที่มีน้ำหนักจะทำการตรวจสอบพล.อ.ประวิตรต่อไปได้ เมื่อผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐหลายคนได้สอบถามตนในเรื่องนี้จำนวนมาก ตนจึงมีความจำเป็นต้องส่งหนังสือถึงพล.อ.ประวิตร เพื่ออธิบายความเป็นมาเป็นไปให้ชัดเจนและเข้าใจกันทุกฝ่าย โดยส่งหนังสือไปทาง EMS แล้วในบ่ายวันนี้ (19 ก.พ.)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-