“แม่แตงโม”​ โต้คนโกหกคือ”กระติก” หอบหลักฐานเด็ดแชทหลุด​เอาผิด​

"แม่แตงโม"​ โต้คนโกหกคือ"กระติก" หอบหลักฐานเด็ดแชทหลุด​เอาผิด​ ยืนยัน​ลูกถูกทำร้ายร่างกาย-จิตใจ​ จนทำให้เสียชีวิต​

วันที่ 27 ก.พ. 65 ที่ สภ.เมืองนนทบุรี​ นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน คุณแม่แตงโม เข้ามาติดต่อพนักงานสอบสวนยื่นเอกสารเพิ่มเติม​ซึ่งเป็นแชทจากผู้ชายคนนึงบนเรือมาระบายให้เพื่อนฟังและเพื่อนหวังดีก็ส่งต่อข้อมูลจนมาถึงแม่เป็นบุคคลที่4 ชี้​เป็นหลักฐานสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่าลูกสาวถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ​ และย้ำว่า​ แม่ยังไม่ได้พูด​คุยกับ​ กระติก​ หรือ นางสาวอิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ ผู้จัดการส่วนตัว​แม้จะมีการอ้างว่าได้พูดคุยแล้วที่นิติเวชตอนไปดูศพแตงโม​ ทุกอย่างที่​แถลงต่อสื่อมวลชนเป็นเรื่องโกหก​ รวมไปถึงเรื่องที่​กระติกบอกว่าลูกสาวตัวเองไปปัสสาวะ​ท้ายเรือ​ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้​ลูกสาวไม่มีทาง​ ทำแบบนั้น​ ในที่ที่มีคนเยอะ​ พร้อมเปิดเผยรายละเอียด​ หลักฐานที่นำมาให้วันนี้​ ว่าเป็นบทสนทนา​เรื่องราวของคนบนเรือที่ตกลง​คนละเรื่องที่บอกว่า​ ชวนแตงโมไปนั่งเรือเล่นและทานข้าว​ เรื่องในแชท​ เป็นต้นเหตุ​ที่ทำให้แตงโมไม่พอใจจนเกิดปัญหาไม่พอใจในเรือ​

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนที่กระติกบอกว่าไม่ได้มีการสนิทสนม​กับแม่จนไม่ได้ติดต่อตอนลูกสาวหาย​ นางพนิดายืนยันเป็นเรื่องโกหก​ เพราะมีการติดต่อไปมาหาสู่และรับงานของแตงโมด้วยกันและบางครั้งแม่ก็ไปร่วมด้วยเกือบทุกรายการ​ และที่กระติกไม่จำเป็น​ ต้องอ้างว่า​ แตงโมตายตนเองเสียใจงานหาย​ เงินหาย​ ลูกไม่มีคนช่วยเลี้ยงนั้น​ กระติกไปหางานหาเงินใหม่ได้ แต่ลูกสาวตายไปแล้วเสียลูก​ไป​ พร้อมยืนยันว่า​ ลูกสาวของกระติกไม่ใช่ลูกบุญธรรมของแตงโมเพียงแต่ที่ผ่านมา​ ครอบครัวรักและเอ็นดูเด็กคนนี้มาก​ ช่วยเหลือและส่งเสียเข้าโรงเรียนดี เรื่องนี้​ คนที่จะพูดโกหกก็คือกระติก​ และรอให้ความจริงออกมา​

 

ขณะที่​ ในเวลาประมาณ​ 15.35 น. นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ เจ้าของเรือสปีดโบ๊ต และนายเบิต เดินลงออกมาจากห้องสอบสวน ซึ่งไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด ก่อนจะเดินขึ้นรถตู้ขับออกจากโรงพักไป โดยนายปอ ระบุสั้นสั้นว่า “พรุ่งนี้ผมจะให้คำตอบทั้งหมด” ขณะที่ชายสองคนซึ่งเดินลงมาพร้อมกับนายเบิต และนายปอ เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ยังไม่ได้รับเป็นทนายความให้ทั้งสองคน จึงไม่สามารถให้รายละเอียดได้

พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผู้กำกับการ สภ.เมืองนนทบุรี เปิดเผยว่า ตำรวจให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน โดยใช้หลักทรัพย์ประกันเป็นเงิน คนละ 200,000 บาท เงื่อนไขห้ามไปยุ่งเกี่ยวหรือข่มขู่พยาน และต้องมาให้ปากคำกับตำรวจตามตามนัดหมาย​

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

‘โฆษก ทบ.’ แจง ‘เจ้ากรมยุทธฯ’ ทำร้ายทหาร เหลือสอบพยาน 2-3 ราย ทำได้แค่ตักเตือน ส่วนคดีอาญา เจ้าทุกข์ต้องดำเนินการ
"อ.ปานเทพ"กางเอกสาร JC2544 อ้างไทย-กัมพูชา เคยรับรอง MOU 44 เป็นสนธิสัญญา
"ดร.ศิลปฯ" อดีตผู้สมัคร สส.เพื่อไทย รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นโรงเรียนทวีธาภิเศก ปี 67 ปักธงสนับสนุนด้านกีฬากับเยาวชน
"แม่บ้าน" ส่อชวดรับมรดก 100 ล้าน หลัง "แหม่มฝรั่งเศส" ยกมรดก 100 ล้าน ให้ก่อนจบชีวิต
ตร.ปคบ.บุกทลายโรงงานเครื่องสำอางเถื่อน ลอบผลิต-ส่งขายทั่วภาคอีสาน ยึดของกลางกว่า 4 หมื่นชิ้น
ชาวบ้าน 2 ตำบลเฮ ขอบคุณป่าไม้ที่อนุญาติให้ อบต.สร้างถนนลัดไปอำเภอ หลัง สว.สุรินทร์ หารือในการประชุมวุฒิสภาช่วยแก้ปัญหาชาวบ้าน เป็นของขวัญปีใหม่
"แม่สามารถ" ยื่นจดหมายลับใส่มือนักข่าว อ้างไม่ได้รับความเป็นธรรม
“ปรเมศวร์” เตือน “อธิบดีกรมที่ดิน” เสี่ยงโดนม.157 ปมเขากระโดง
ผู้จัดการตลท. พร้อมให้ข้อมูล คดี “หมอบุญ” เตือนนักลงทุน ใช้สติก่อนตัดสินใจ
“บิ๊กน้อย” การันตี แจงแทน “บิ๊กป้อม” ไม่โทรให้ใครช่วย “สามารถ”

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น