นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงการคลังเปิดประมูลโครงการบริหารท่อส่งน้ำสายหลักภาคตะวันออก ถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกพบว่าบ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัดหรืออีสต์วอเตอร์ เป็นผู้ได้คะแนนสูงสุด แต่คณะกรรมการกลับมีมติยกเลิกการประมูลดังกล่าวและให้ประมูลใหม่ โดยอ้างว่า TOR ที่คณะกรรมการคัดเลือกมีมติรับรองแล้วนั้นไม่ชัดเจน ทั้งๆที่คณะกรรมการคัดเลือกเป็นผู้กำหนดและพิจารณามีมติรับรองมาแล้วก่อนที่จะให้เอกชนเสนอรายละเอียดเข้าร่วมประมูล
ต่อมามีการเปิดประมูลครั้งที่ 2 ผลปรากฏว่า บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด เสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้ภาครัฐสูงสุด 25,693.22 ล้านบาท ตลอดอายุสัญญา 30 ปี เอาชนะ บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) หรือ ‘อีสท์วอเตอร์’ ซึ่งเสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้ภาครัฐ 24,212.88 ล้านบาท ตลอดอายุสัญญา 30 ปี
การใช้อำนาจของคณะกรรมการดังกล่าวมีข้อพิรุธหลายประการ จนมีการนำความไปฟ้องศาลปกครอง และสมาคมฯได้ยื่นร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ไปแล้วเมื่อ 3 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา โดยชี้ให้เห็นถึงข้อผิดพลาดหลายประการที่ส่อไปในทางที่ไม่ชอบด้วยพรบ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหาร พัสดุภาครัฐ 2560 พรบ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ 2542 และพรบ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ 2561 และชี้ให้เห็นถึงความไม่ชอบมาพากลอีกหลายประการ