ศาลอุทธรณ์ ยืนโทษจำคุก “หมอร้อยไหม” ทำไฮโซวัย 72 ดับคาคลีนิก ปี 61

ศาลอุทธรณ์ ยืนโทษจำคุก "หมอร้อยไหม" ทำไฮโซวัย 72 ดับคาคลีนิก ปี 61

ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายเพทย์ธนพล ทองประเสริฐ จำเลยในคดีฉีดร้อยไหม หญิงไฮโซวัย72 ปีเสียชีวิตคาคลีนิก ย่านทาวน์อินน์ทาวน์ ได้เดินทางมาศาลเพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.2810/2562 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้อง นพ.ธนพล ทองประเสริฐ อายุ 53 ปี เจ้าของคลินิกเสริมความงามชื่อดังย่านทาวน์อินน์ทาวน์ กทม. เป็นจำเลยในความผิดฐานกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตาม ป.อาญา ม.291, ประกอบการและดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาลฯ

ข่าวที่น่าสนใจ

จากกรณีที่จำเลยได้จัดตั้งคลินิกเสริมสวย ทำศัลยกรรมเสริมความงามโดยมิได้รับอนุญาต อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย โดยจำเลยได้ฉีดสสาร (ยาชาไซโคเคนผสมอาดีนาลีน) จำนวน 12 ซีซี เพื่อเสริมความงามโดยวิธีร้อยไหมให้กับหญิงอายุ 72 ปี ที่เข้ารับบริการโดยประมาท ปราศจากความระมัดระวัง เป็นเหตุให้เกิดอาการแพ้ยา ริมฝีปาก และนิ้วมือสีเขียว จากนั้นจำเลยได้ปั๊มหัวใจด้วยความรุนแรงต่อเนื่อง จนกระดูกซี่โครงหัก ตับฉีกขาด เลือดออกในช่องท้อง เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย

โดยคดีนี้ศาลชั้นพิพากษาจำคุกจำเลย 4 ปี ฐานกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตาม ป.อาญา ม.291 , จำคุก 1 ปีฐานประกอบการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำคุกอีก 1 ปีฐานดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยให้การรับสารภาพ 2 ข้อหา หลังลดโทษข้อหาละกึ่งหนึ่ง 6 เดือน เป็น 12 เดือน รวมจำคุกจำเลย 4 ปี 12 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล

ล่าสุดศาลอุทธรณ์ ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้ว เห็นว่า ที่จำเลยอุทธรณ์ การกระทำของจำเลยเป็นความประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายหรือไม่เห็นว่าการซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียดก่อนทำการรักษาประกอบกับคนไข้อายุมากมักมีโรคประจำตัว ดังนั้นการร้อยไหมกรณีนี้ จำเลยละเลยไม่ซักประวัติสุขภาพและตรวจสุขภาพของผู้ตายก่อนทำหัตถการ ซึ่งการกระทำดังกล่าวศาลนำมาพิจารณาประกอบพยานหลักฐานมิใช่เป็นเหตุโดยตรง อุทธรณ์ของจำเลยฟังไม่ขึ้นพยานหลักฐานของจำเลยไม่อาจรับฟังหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ร่วมได้

คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยประการสุดท้ายว่ามีเหตุสมควรลงโทษจำเลยสถานเบาและรอการลงโทษหรือไม่ เห็นว่า ที่ศาลชั้นต้นวางโทษฐานประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และฐานดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้จำคุกกระทงละ 1 ปี ก่อนลดโทษให้กึ่งหนึ่ง และความผิดฐานกระทำโดย
ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายจำคุก 4ปี นับเป็นการกำหนดโทษที่เหมาะสมแล้ว กรณีไม่มีเหตุที่ศาลอุทธรณ์จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขโทษให้เบาลงกว่านี้อีก

ส่วนที่จำเลยอุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษนั้น เห็นว่า จำเลยเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ย่อมต้องดำรงตนให้สมควรในสังคมโดยธรรมและ
เคารพต่อกฎหมายบ้านเมือง การที่จำเลยใช้สถานที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ภายในอาคาร
ศรีวราคอนโด เป็นสถานพยาบาลแห่งใหม่ทั้งที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตให้เปิดอีกทั้งไม่มีเครื่องมือจำเป็น ต่อการช่วยผู้ป่วยในถาวะวิกฤติอย่างเพียงพอ เมื่อเกิดปัญหาระหว่างการร้อยไหม ทำให้จำเลยไม่สามรถช่วยผู้เสียชีวิตได้อย่างเหมาะสม และตามคำแก้อุทธรณ์ของโจทก์ร่วมปรากฎว่าภายหลังจำเลยไม่แสดงความเสียใจและบรรเทาผลร้ายที่เกิดจากความประมาท ต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต จึงไม่มีเหตุให้สมควรลงโทษ

พิพากษายืนแต่ให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ผู้ร้องทั้งสามเข้าร่วมเป็นโจทก์เฉพาะความผิดฐานประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและความผิดฐานดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับใบอนุญาต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ญี่ปุ่นเสนอร่วมโครงการวางท่อก๊าซกับสหรัฐ
มาเลเซียเรียกร้องอาเซียนผนีกกำลังต้านภาษีทรัมป์
โดนหนักแน่ “เอกนัฏ” จ่อฟัน “ซินเคอหยวน” เป็นคดีพิเศษเพิ่ม ลุยสอบซุกฝุ่นแดงมหาศาล
ทรัมป์พร้อมเจรจานานาชาติปมภาษีตอบโต้
สิงคโปร์ส่งแมลงสาบไซบอร์กกู้ภัยแผ่นดินไหวเมียนมา
UNEX EV เปิดตัว'ระบบสลับแบตเตอรี่'ในไทยใช้เวลา 3 นาที
นักวิชาการแนะนำเข้าเนื้อหมูสหรัฐ ควรพิจารณารอบด้าน หวั่นเจอผลกระทบระยาว ย้ำไทยมีการเลี้ยงได้มาตรฐานสากล
จับตา "ทรัมป์" พร้อมเจรจานานาชาติปมภาษีนำเข้า หลังตลาดหุ้นสหรัฐและทั่วโลกดิ่งต่อเนื่อง
"หนุ่มไฮโซเก๊" เครียดหนักโดนแฉ หลอก "คะน้า" ดาราดัง โดดระเบียงชั้น 3 ตกลงมาเจ็บหนัก นำตัวส่งรพ.
"ทูตแรงงานเมียนมา" เยี่ยมศูนย์พักผู้ประสบภัยตึก สตง.ถล่ม เร่งตรวจสอบเยียวยา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น