“พล.ต.อ.อดุลย์” ปธ.กมธ.แรงงาน เปิดเวทีสัมมนาระดมความเห็นทุกภาคส่วน เร่งแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน

"พล.ต.อ.อดุลย์" ปธ.กมธ.แรงงาน เปิดเวทีสัมมนาระดมความเห็นทุกภาคส่วน เร่งแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2565 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภา เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาเรื่อง “การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตภาคเกษตรกรรม” โดยมี พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รองประธาน คณะกรรมาธิการ คนที่สี่ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านการจัดหางานและพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวรายงาน ณ ห้องบอลรูม 1 ชั้น 3 โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ประเทศไทยสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจโดยมุ่งเน้นการส่งสินค้าออกไปต่างประเทศ การท่องเที่ยว และการบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก รวมทั้งภาคเกษตรกรรมก็เป็นภาคที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศเช่นเดียวกัน โดยมีประชากรในประเทศไทยที่ประกอบอาชีพภาคเกษตรกรรมกว่า 25 ล้านคนเศษ หรือคิดเป็นร้อยละ 40 ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งนับว่าเป็นแหล่งรองรับแรงงานที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ทั้งนี้ ภาคเกษตรกรรมยังสามารถสร้างรายได้ต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศประมาณร้อยละ 9 ของ GDP อย่างไรก็ตามภาคเกษตรกรรมก็ยังขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากแรงงานวัยหนุ่มสาวส่วนใหญ่หลั่งไหลเข้าสู่เมืองใหญ่เพื่อทำงานภาคอุตสาหกรรมและบริการ ซึ่งได้รับผลตอบแทนจากการทำงานสูงประกอบกับภาคเกษตรกรรมมักจะขาดแคลนแรงงานในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวเป็นประจำทุกปี จึงจำเป็นต้องพึ่งพาแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ได้แก่ เมียนมา ลาว และกัมพูชา เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่ไม่นิยมทำงานในลักษณะ 3D คือสกปรก เสี่ยงภัย และอันตราย ทำให้ต้องพึ่งพาแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ประมาณกว่า 3 ล้านคน ที่ได้มาทำงานในประเทศไทย ซึ่งหากคิดเป็นสัดส่วนต่อประชากรของประเทศประมาณ 67 ล้านคนแล้ว จะมีแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ คิดเป็นสัดส่วนเกือบร้อยละ 5 ของประชากรทั้งประเทศ และจำนวนแรงงานต่างด้าวก็จะมีจำนวนสูงขึ้น โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ที่เกินกว่าร้อยละ 90 ของจำนวนแรงงานต่างด้าวทั้งหมดที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวต่อว่า การนำแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ เข้ามาในประเทศไทยก็จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการในการช่วยแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานในทุกภาคส่วน แต่ต้องแลกมากับผลกระทบต่อความมั่นคง สังคม เศรษฐกิจ และการเมืองทั้งในและต่างประเทศ ในด้านบวก คือ แรงงานต่างด้าวช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่คนไทยไม่นิยมทำ และช่วยสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ส่วนผลกระทบด้านลบ คือ ปัญหาด้านสาธารณสุข ปัญหาอาชญากรรม และยาเสพติด ปัญหาการศึกษา และเด็กที่เกิดในประเทศไทย ปัญหาที่อยู่อาศัยไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

“การสัมมนาในครั้งนี้ จึงจัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้นำเสนอข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็นที่กว้างขวาง หลากหลายและเกิดประโยชน์สูงสุด ในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ รวมทั้งนำข้อเสนอที่ได้จากทุกภาคส่วนในการช่วยแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงาน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อความต้องการแรงงานของผู้ประกอบการ รวมทั้งข้อเสนอแนะดังกล่าวจะได้นำไปเสนอยังรัฐบาล เพื่อให้การดำเนินการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้” พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวในท้ายสุด

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ประเสริฐ" พอใจปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลดความเสียหายได้ 40% ชงเป็นผลงานรัฐบาล
“เอกนัฏ” ลั่น เอาเรื่องถึงที่สุด สั่งจับโรงงานสายไฟไม่ได้มาตรฐาน ยึดของกลาง 65 ล้าน
“สุชาติ”เปิดงาน“ชลบุรี พราว เอ็กโป 2024” สร้างช่องทาง SME สร้างงานปชช.
รัฐบาลเปิดตัวนวัตกรรม “ตู้ห่วงใย” บริการทางการแพทย์ พบแพทย์ผ่านวิดีโอคอล เล็งขยายทั่วประเทศ
"พระปีนเสา" เล่านาที ถูกทำร้ายหน้าช่อง 8 เจ็บจนเห็นดาวเห็นเดือน โร่แจ้งความตำรวจ สน.บางเขน
"กลุ่มชายปริศนา" แหวกวงล้อมสื่อ เข้ารุมทำร้าย "พระปีนเสา" ขณะให้สัมภาษณ์
เปิดตัว "TKR Connect" แพลตฟอร์มจัดหางานครบวงจร สร้างมิติใหม่รองรับแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกม.
ออกหมายจับ "หมอบุญ" พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้กู้เงิน 8 พันล้าน
ระทึกกลางดึก ไฟไหม้ "ร้านกาแฟ" เผาวอดทั้งหลัง เสียหายกว่า 7 แสนบาท
"อุตุฯ" เผย "เหนือ-อีสาน-กลาง" อากาศเย็นตอนเช้า เตือนใต้ยังรับมือฝนตก

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น