น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัว พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Woody Exclusive ซึ่งสัมภาษณ์โดย วู้ดดี้-นายวุฒิธร มิลินทจินดา พิธีกรชื่อดัง ผ่านทางยูทูป ซึ่งมีความยาวประมาณ20นาที มีหลายช่วงหลายตอนที่น่าสนใจ เช่น เรื่องข้อสอบ การสอบเอ็นทรานซ์เข้าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บทบาททางการเมือง ความพร้อมที่จะเป็นนายกฯหรือไม่ อยากให้มีการเปลี่ยนรัฐบาลหรือไม่ การกลับประเทศของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและบิดา จะกลับมาในช่วงเวลาใด รวมไปถึงเหตุการณ์ตอนรัฐประหาร 19กันยา 2549 โดยตลอดการให้สัมภาษณ์มีนางพินทองทา คุณากรวงศ์ พี่สาว คอยให้กำลังใจตลอดเวลาระหว่างการให้สัมภาษณ์ที่โรงแรม Rosewood Bangkok ซึ่งเป็นโรงแรมหรู ที่มีนางพินทองทา เป็นเจ้าของ
น.ส.แพทองธาร กล่าวถึงการเติบโตมาในครอบครัวชินวัตร สิ่งที่ได้เรียนรู้จากคุณพ่อนั้น ภูมิใจที่คุณพ่อเก่ง มีอะไรถามได้ เป็นที่พึ่ง ตอน8ขวบ คุณพ่อเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ เคยเข้าไปนั่งถ่ายรูปในกระทรวง ตอนอายุ14ปี คุณพ่อเป็นนายกฯ ในครอบครัวอบอุ่นมาก ไม่ได้รู้สึกว่าจะเป็น somebody มากๆ ไม่รู้สึกขนาดนั้น สิ่งที่เรียนรู้จากพ่อคือ การมีสติ ทำให้เราต้องรู้ตัวตลอดเวลา อะไรคือของจริง อะไรคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ ณ ปัจจุบัน ซึ่งตอนนั้นก็โดนเยอะ อย่างข่าว มหาวิทยาลัย ข่าวอะไรก็คงออกไปเยอะ เป็นข่าวเชิงลบกับเรา แรกๆรู้สึกจิตใจพังเยอะ แต่ครอบครัวเป็นกำแพงให้ รู้สึกว่า เหมือนเราไม่ได้อยู่คนเดียว คุณพ่อกับคุณแม่เขาจะมีวิธี การสื่อสารระหว่างครอบครัวเยอะ ไปค้นหาในอดีตยังมีเรื่องเอนทรานซ์โผล่ขึ้นมา ล่าสุดในอินสตาแกรมส่วนตัว ระบุว่า เรื่องนี้มันก็เก่ามากแล้ว เราผ่านกระบวนการของการสอบสัมภาษณ์ทุกอย่าง เขาสืบสวน สอบสวนหมดแล้ว เราก็เข้าเรียนได้ปกติ แล้วก็จบมา4ปี ตามปกติ
น.ส.แพรทองธาร กล่าวเล่าย้อนอดีตไปถึงความรู้สึกกับการเมืองช่วงแรกๆ เธอได้อธิบายด้วยท่าทางอารมณ์ดีพร้อมกับระบุว่า อยากเป็นลูกรักพ่อเนาะ เป็นลูกสาวคนเล็ก อะไรที่พ่อทำเราก็ต้องชอบหมด เหมือนเป็นการเอาใจนิดนึง พ่อไปตีกอล์ฟร้อนมากแต่ก็ไปด้วย การเมืองคือสิ่งที่พ่อทำ มันก็เลยทำให้เราอยากรู้ อยากเข้าใจแล้วก็อยากที่จะเหมือนอยู่เคียงข้างพ่อไปตลอด นึกขึ้นมาเหมือนเราจะไม่ชอบการเมือง มันไม่ได้รู้สึกแบบนั้น สิ่งที่พ่อสอนตลอดคือ การเรียนรู้ตลอดชีวิต พูดเสมอว่า เราอย่าเป็นน้ำเต็มแก้ว แม้เราจะรู้สึกคุณพ่อเก่ง บางทีไม่เคยรู้สึกว่า ฉันเก่งที่สุดในห้อง ไม่เคยเป็น ก็จะเล่าเรื่องไปเจอคนนั้นคนนี้มา คนนั้นเก่งมาก คนนี้เก่งมาก เป็นสิ่งที่รู้สึกว่าโอเคมากๆ เราอยากจะเรียนรู้ไปตลอดชีวิต จะถ่ายทอดให้ลูกต่อ ให้หลานต่อ เราไม่ต้องกลัวที่จะเรียนรู้ เรียนรู้ไปเลย ในสิ่งที่เราไม่รู้
พิธีกรถามถึงเรื่อง Passion ในวันนี้ นส.แพทองธาร กล่าวว่า ตั้งแต่มีลูก อยากทำให้ประเทศน่าอยู่สำหรับลูกเรา อีกหน่อยลูกเราจะมีเวทีหรือไม่ หากอยากจะแสดงศักยภาพเขาขึ้นมา ถามว่า อยากให้อะไรเกิดขึ้นเร็วที่สุด สำหรับประเทศชาติบ้านเรา หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ตอบทันทีว่า อยากให้มีการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลค่ะ คิดว่ารู้สึกว่า มันนานล่ะที่มันเป็นอยู่แบบนี้ คิดว่าประเทศมันต้องไปต่อ มันต้องไปต่อ ตอนนี้มันถอยหลังอย่างเดียว จากการที่คุณพ่อออกไป ประเทศหรือเศรษฐกิจทุกอย่าง ก็ยังไม่เคยดีเท่าวันนั้น