"อากาศร้อน ฮีทสโตรก" เสี่ยงอาการรุนแรง และอาจเสียชีวิตได้ เช็คลิสต์ 8 สัญญาณเตือน ผู้มีความเสี่ยง คำแนะนำ การช่วยเหลือ ปฐมพยาบาล เบื้องต้น ที่นี่ ครบ จบ
ข่าวที่น่าสนใจ
“อากาศร้อน ฮีทสโตรก” (Heat stroke) หรือ โรคลมร้อน
- เป็นภาวะวิกฤติที่ร่างกายไม่สามารถปรับตัว หรือควบคุมระดับความร้อนภายในร่างกาย กระทั่ง อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นเรื่อย ๆ
เช็คลิสต์ 8 สัญญาณเตือน
- หน้ามืด
- กระสับกระส่าย
- มึนงง เพ้อ
- หายใจเร็ว
- หัวใจเต้นเร็ว
- ตัวร้อนจัด
- ผิวหนังแห้ง
- ไม่มีเหงื่อ
* หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจทำให้เสียชีวิตได้
กลุ่มเสี่ยงที่อาจได้รับอันตรายจากภาวะลมร้อน ได้แก่
- ผู้ที่ทำงาน หรือทำกิจกรรมกลางแดด
- เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ และผู้สูงอายุ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนได้ดีเท่าคนหนุ่มสาว
- ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งมีปัญหาการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดเดิมอยู่แล้ว
- คนอ้วน
- ผู้ที่อดนอน โดยร่างกายของคนอ้วนและผู้ที่อดนอน จะตอบสนองต่อความร้อนที่ได้รับช้ากว่าปกติ โดยเฉพาะในคนอ้วนจะมีไขมันใต้ผิวหนังมาก ไขมันจะเป็นฉนวนกันความร้อน ร่างกายจะเก็บความร้อนได้ดี และระบายความร้อนออกได้น้อยกว่าคนทั่วไป
- ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะทำให้เส้นเลือดฝอยที่อยู่บริเวณใต้ผิวหนังขยายตัวได้มากขึ้นส่งผลให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่สูงกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มขณะเดียว กันในสภาพอากาศที่ร้อนจัด แอลกอฮอล์จะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้รวดเร็ว และออกฤทธิ์กระตุ้นหัวใจให้สูบฉีดเลือดเร็วและแรงขึ้น มีผลทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจต้องทำงานหนักเพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย อาจทำให้เกิดภาวะช็อคและเสียชีวิตได้
หากอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนจัดต่อเนื่องกันจะมีผลกระทบต่อสุขภาพ 4 ระดับ คือ
- ทำให้ผิวหนังไหม้
- เป็นตะคริว เนื่องจากสูญเสียน้ำและเกลือแร่ไปกับเหงื่อ
- อาการเพลียแดด เนื่องจากสูญเสียเหงื่อ เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อลดลง จะมีอาการหน้าซีด ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน หน้ามืด ตาลาย
- เป็นลมร้อน (Heat Stroke) เนื่องจากได้รับความร้อนมากเป็นเวลานาน ตัวจะร้อนจัด สมองไม่สามารถควบคุมการทำงานของอวัยวะภายในร่างกายได้
อาการสำคัญ “อากาศร้อน ฮีทสโตรก” ที่ต่างจากอาการเป็นลมแดดทั่ว ๆ ไป คือ
- ตัวร้อนจัด
- ผิวหนังจะแห้ง
- ไม่มีเหงื่อออก
- มีอาการผิดปกติทางระบบประสาท เช่น
- เดินเซ
- กระสับกระส่าย
- หมดสติ
- ชีพจรเต้นเร็ว
- ช็อก
* หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างทันท่วงทีจะทำให้เสียชีวิตได้
การช่วยเหลือผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยจากภาวะลมร้อน
- ให้นอนราบ ยกเท้าสูงทั้งสองข้าง เพื่อให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองมากขึ้น
- คลายชุดชั้นในและถอดเสื้อผ้าออกให้เหลือน้อยชิ้น
- ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบ ตามซอกคอ รักแร้ ขาหนีบ หน้าผาก ร่วมกับการใช้พัดลมช่วยเป่าระบายความร้อนหรือใช้น้ำเย็นราดตัว เพื่อลดอุณหภูมิของร่างกายให้ต่ำลง
- รีบส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
การป้องกันอันตรายจากโรคลมร้อน
- ในช่วงที่มีอากาศร้อน แนะนำให้สวมใส่เสื้อผ้าสีอ่อน ไม่หนา ระบายความร้อนได้ดี
- ควรอยู่ภายในบ้าน เช่น ใต้ถุนบ้าน หรืออยู่ใต้ร่มไม้
- ลดกิจกรรมที่ต้องออกแรงกลางแจ้ง
- สวมแว่นกันแดด
- สวมหมวกปีกกว้าง
- ควรดื่มน้ำมากกว่าปกติ
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิ
- อย่าทิ้งเด็ก ผู้สูงอายุ หรือสัตว์เลี้ยงไว้ในรถที่จอดอยู่กลางแจ้ง
- ส่วนผู้ที่ออกกำลังกาย ควรเลือกออกกำลังกายในช่วงเช้าหรือช่วงเย็น เนื่องจากเป็นช่วงที่อากาศไม่ร้อนมาก และควรมีการอบอุ่นร่างกายก่อนทุกครั้ง
ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่สายด่วน กรมควบคุมโรค 1422
ข่าวที่เกี่ยวข้อง