ชำแหละแก๊ง 3 นิ้ว เหิมเกริม เปิดหน้าคุกคามสถาบันฯ

ชำแหละแก๊ง 3 นิ้ว เหิมเกริม เปิดหน้าคุกคามสถาบันฯ

เป็นอีกครั้งที่แนวร่วมม็อบ 3 นิ้ว ได้ออกมาเคลื่อนไหวทำร้ายจิตใจคนไทย ด้วยการคุกคามสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไม่เกรงกลัว หลังจากวานนี้ซึ่งเป็นวันจักรี กลุ่มมังกรปฏิวัติ ได้ไปคุกคามขบวนเสด็จที่บริเวณสะพานพระพุทธยอดฟ้า ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ที่ปฐมบรมราชานุสรณ์ สะพานพระพุทธยอดฟ้า แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่านสกัด ทำให้ทางกลุ่มถึงกับประกาศอย่างเหิมเกริมว่า รับเสด็จไม่ได้ก็ไม่ต้องมี

ทั้งนี้ท็อปนิวส์ได้ตรวจสอบพบว่า แนวร่วมม็อบ 3 นิ้ว ที่เหิมเกริมเคลื่อนไหวคุกคามสถาบันอย่างรุนแรง หลักๆมีอยู่ 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มมังกรปฏิวัติ กลุ่มทะลุวัง และกลุ่มทะลุฟ้า ส่วนแกนนำหลักที่ออกมาเปิดหน้าจัดกิจกรรม อาทิ นายธนพัฒน์ กาเพ็ง หรือ ปูน ทะลุฟ้า แฟนหนุ่มของเพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ ,นางสาวพิมชนก ใจหงษ์ ,นางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน, นางสาวณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ หรือ ใบปอ , นายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือ สายน้ำ และเป็นแอดมินเพจทะลุวัง แต่ล่าสุดสายน้ำถูกไล่ออกจากกลุ่ม เพราะมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ โดยทั้งหมดยังสมคบกับเครือข่ายนักศึกษาในบางมหาวิทยาลัย เคลื่อนไหวทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ต่างๆ เช่น

เดือนธันวาคม 2564 นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นกลุ่มหนึ่ง นำป้ายที่เขียนข้อความว่า ยกเลิกม.112 และป้ายข้อความปล่อยเพื่อนเรา มาชูพร้อมกับชูสามนิ้ว บริเวณคณะนิติศาสตร์ ก่อนจะนำชุดครุยมาจุดไฟเผา ซึ่งวันดังกล่าว สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชทานปริญญาบัตรให้แก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น

ต้นเดือนมกราคม 2565 สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ประกาศไม่ส่งตัวแทนร่วมรับเสด็จฯ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร และยังจัดกิจกรรมสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “คุณอยากรับปริญญากับใคร ?” จากนั้น นายยศสุนทร รัตตประดิษฐ์ นักศึกษาคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ นางสาวพิมชนก ใจหงษ์ ได้ทำกิจกรรมชูป้ายข้อความ “ปริญญาศักดินา” ที่บริเวณหน้าหอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระหว่างพิธีพระราชทานปริญญาบัตรให้กับบัณฑิตมหาวิทยาลัย

ข่าวที่น่าสนใจ

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 นางสาวพิมชนก ได้ออกมาป่วนขบวนเสด็จ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่เสด็จพระราชดำเนิน เพื่อทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งนางสาวพิมพ์ชนก ได้มีการใช้คำพูดหยาบคาย ด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าสกัดกั้น และยังพ่นน้ำใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่นั่งอยู่ข้างๆ พร้อมกับบอกว่า ขอโทษค่ะ หนูจาม

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ “ตะวัน” ทานตะวัน พร้อมแนวร่วม จัดกิจกรรมบริเวณลานหน้าห้างสยามพารากอน ถือป้ายกระดาษแข็งที่มีข้อความสอบถามความคิดเห็นด้วยข้อความว่า “คุณคิดว่าขบวนเสด็จสร้างความเดือดร้อนหรือไม่”

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ นางสาวพิมพ์ชนก เจ้าเดิม ได้ไปป่วนขบวนเสด็จ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน ที่เสด็จไปในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ จนกระทั่งเจ้าตัวและเพื่อนที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถูกเจ้าของหอพักไล่ออก

วันที่ 5 มีนาคม “ตะวัน” ทานตะวัน ได้เตรียมจัดกิจกรรมคุกคามขบวนเสด็จ บริเวณถนนราชดำเนินนอก แต่ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าสกัดกั้นไว้ได้ทัน ก่อนจะคุมตัวตะวันไปดำเนินคดี

ปัจจุบันแกนนำที่ออกมาเคลื่อนไหวคุกคามสถาบันพระมหากษัตริย์ ต่างถูกดำเนินคดีในหลายข้อหา ดังนี้

ปูน ทะลุฟ้า ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 จากกรณีเผาพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวง รัชกาลที่ 10 บริเวณป้ายเรือนจำคลองเปรม และจากกรณีโพสต์เฟซบุ๊ก 8 ข้อความในกลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง ซึ่งเจ้าตัวได้เคยถูกคุมขังในเรือนจำ และพบรักกับเพนกวิน ก่อนจะได้ประกันตัวออกมา

นางสาวพิมพมพ์ชนก ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 จากการจัดกิจกรรมคุกคามขบวนเสด็จที่จังหวัดเชียงใหม่

นางสาวทานตะวัน หรือ ตะวัน ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 มาตรา 116 จากกรณีจัดกิจกรรมโพลขบวนเสด็จที่ห้างสยามพารากอน และกรณีไลฟ์สดก่อนมีขบวนเสด็จ ที่ถนนราชดำเนินนอก

นางสาวณัฐนิช หรือ ใบปอ ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 และมาตรา 116 จากกรณีจัดกิจกรรมโพลขบวนเสด็จที่ห้างสยามพารากอน

สายน้ำ นภสินธุ์ ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 จากการแต่งเสื้อครอปท็อป และกรณีพ่นสีสเปรย์บนพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวง รัชกาลที่ 10 จากเหตุชุมนุมเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2564

โดยทั้งหมดศาลอนุญาตให้ประกันตัว พร้อมกับมีเงื่อนไข เช่น ห้ามทำกิจกรรมเสื่อมเสียต่อสถาบันฯ, ห้ามโพสต์เชิญชวน ปลุกปั่น ยั่วยุ หรือร่วมชุมนุมที่อาจก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง, ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล, ให้ติดอุปกรณ์กำไลEM แต่คนเหล่านี้ยังคงเคลื่อนไหวโดยไม่สนใจเงื่อนไขข้อห้ามจากศาลแต่อย่างใด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ทนายพจน์" ยื่นหนังสือสำนักพุทธฯ จี้คณะสงฆ์แจ้ง "พระปีนเสา" สละสมณเพศ หลังถูกขับพ้นวัดวังกวาง
ตร.นำกำลังทลายแคมป์ "แรงงานต่างด้าวเถื่อน" นับร้อย ย่านหนองใหญ่-ชลบุรี เตรียมผลักดันออกนอกประเทศ
‘โฆษก ทบ.’ แจง ‘เจ้ากรมยุทธฯ’ ทำร้ายทหาร เหลือสอบพยาน 2-3 ราย ทำได้แค่ตักเตือน ส่วนคดีอาญา เจ้าทุกข์ต้องดำเนินการ
"อ.ปานเทพ"กางเอกสาร JC2544 อ้างไทย-กัมพูชา เคยรับรอง MOU 44 เป็นสนธิสัญญา
"ดร.ศิลปฯ" อดีตผู้สมัคร สส.เพื่อไทย รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นโรงเรียนทวีธาภิเศก ปี 67 ปักธงสนับสนุนด้านกีฬากับเยาวชน
"แม่บ้าน" ส่อชวดรับมรดก 100 ล้าน หลัง "แหม่มฝรั่งเศส" ยกมรดก 100 ล้าน ให้ก่อนจบชีวิต
ตร.ปคบ.บุกทลายโรงงานเครื่องสำอางเถื่อน ลอบผลิต-ส่งขายทั่วภาคอีสาน ยึดของกลางกว่า 4 หมื่นชิ้น
ชาวบ้าน 2 ตำบลเฮ ขอบคุณป่าไม้ที่อนุญาติให้ อบต.สร้างถนนลัดไปอำเภอ หลัง สว.สุรินทร์ หารือในการประชุมวุฒิสภาช่วยแก้ปัญหาชาวบ้าน เป็นของขวัญปีใหม่
"แม่สามารถ" ยื่นจดหมายลับใส่มือนักข่าว อ้างไม่ได้รับความเป็นธรรม
“ปรเมศวร์” เตือน “อธิบดีกรมที่ดิน” เสี่ยงโดนม.157 ปมเขากระโดง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น