นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีมาตรการดูแลราคาพลังงาน อย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนอย่างสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยตรึงราคาน้ำมันดีเซลที่ 30 บาท/ลิตร จนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2565 จากนั้นเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2565 รัฐจะช่วยส่วนที่ราคาเพิ่มเพิ่มขึ้นครึ่งหนึ่ง หรือ 50% รวมทั้งการบรรเทาผลกระทบราคาค่าก๊าซหุงต้ม (LPG ) ให้กับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยเพิ่มวงเงินช่วยเหลือค่าก๊าซหุงต้มเป็น 100 บาท เป็นเวลา 3 เดือน และส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้ม เดือนละ 100 บาท สำหรับผู้ค้าหาบเร่แผงลอยที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคงราคาขายปลีก NGV ที่ 15.59 บาท/กิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือน ให้กับผู้ที่ใช้ก๊าซ NGV ทั่วไป อีกทั้งยังช่วยราคาน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ โดยได้รับส่วนลดค่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 250 บาทต่อเดือนเป็นเวลา 3 เดือน สนับสนุนราคาก๊าซ NGV ให้ผู้ขับรถแท็กซี่ ภายใต้โครงการลมหายใจเดียวกัน โดยจะตรึงไว้ที่ราคา 13.62 บาทต่อกิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือน
นอกจากนี้ รัฐบาลยังดูแลในส่วนของค่าไฟฟ้า ในเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2565 โดยช่วยผู้ใช้ไฟฟ้าที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ซึ่งคนในกลุ่มนี้มีจำนวนประมาณ 20 ล้านรายทั่วประเทศ โดยงบประมาณด้านพลังงานที่ภาครัฐช่วยเหลือประชาชนตั้งแต่เหตุการณ์โควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน เป็นเงินจำนวน 164,228 ล้านบาท คาดว่าจะใช้งบประมาณอีก 43,602 – 45,102 ล้านบาทในการดำเนินมาตรการที่กล่าวข้างต้นต่อไป