นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการครอบครองที่ดินของ ส.ส. ที่ก่อนหน้านี้มีการร้องมายัง ป.ป.ช.เพื่อให้เอาผิดข้อหาฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง ลักษณะเดียวกับ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากมีการร้องเรียนเข้ามาอยู่หลายรายพอสมควร โดยนอกจากที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เคยมายื่นเอาไว้ 19 รายชื่อ ยังมีคนอื่นมายื่นอีก และมีที่ ป.ป.ช.ตรวจพบจากการยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน 50-60 ราย แต่ไม่ได้หมายความว่า ทั้ง 50-60 ราย จะมีมูลเหมือนกับของ น.ส.ปารีณาทั้งหมด ต้องพิจารณาเป็นรายๆ ไป ทั้งนี้ สำหรับเรื่องการครอบครองที่ดินมีการแต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวนไปบ้างแล้ว ประมาณ 1-2 ราย
“แต่ละกรณีข้อเท็จจริงอาจจะมีความแตกต่างกัน และมีความยุ่งยากแตกต่างกัน อย่างกรณีคุณปารีณา ทางหน่วยงานลงไปตรวจสอบและส่งข้อมูลมาให้ ป.ป.ช.ทั้งหมด เลยวินิจฉัยได้ง่าย แต่รายอื่นต้องมีการประสานกับหน่วยงานอื่นลงไปตรวจสอบ และลงพื้นที่ไปดูว่าครอบครองที่ดินเมื่อไหร่ อย่างไร ตรงนี้เป็นความยุ่งยากพอสมควร”นายนิวัติไชย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้คนเข้าใจว่า ถ้ามีความผิดเกี่ยวกับการครอบครองที่ดิน จะผิดข้อหาฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงทั้งหมด นายนิวัติไชย กล่าวว่า ต้องย้อนกลับไปดูคำพิพากษาของศาลฎีกาในคดีของ น.ส.ปารีณาว่าวินิจฉัยว่าอย่างไร เราต้องถอดออกมา เช่น ประเด็นเกี่ยวกับเรื่องรู้หรือไม่รู้ รู้แล้วมีการดำเนินการแก้ไขหรือไม่ จำนวนหรือปริมาณการครอบครองที่ดิน และความเสียหายที่ก่อให้เกิดกับรัฐสูงหรือไม่ ดังนั้น จึงต้องดูเป็นรายๆ ไปเกี่ยวกับหลักการครอบครอง