เมื่อวันที่ 11 เม.ย. นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กว่า “ผมเห็นภาพการเคลื่อนไหวของแกนนำคนเสื้อแดงบางคนที่ฉวยโอกาสใช้วันที่ 10 เม.ย. จัดกิจกรรมรำลึกคนเสื้อแดงที่เสียชีวิต และใช้โอกาสนี้เคลื่อนไหวทางการเมือง รื้อฟื้นความขัดแย้งในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการนำเอาเหตุการณ์ความขัดแย้งในอดีตขึ้นมาขยายผลและตอกย้ำ สร้างเป็นเงื่อนไขความขัดแย้งของสังคมขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง ทั้งที่ความรู้สึกของผู้คนในสังคมกำลังจะคลี่คลายสลายสีเสื้อให้หมดสิ้นจากสังคมไทยไปแล้ว และสังคมก็ไม่อยากจะเห็นความขัดแย้งทางการเมือง หรือการชุมนุมทางการเมืองบนท้องถนน แบบปักหลักพักค้าง แรมเดือนแรมปีเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นการทำลายเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติจากประชาคมโลก แต่จนบัดนี้ก็ยังมีกลุ่มคนที่พยายามเคลื่อนไหวแบ่งแยกประชาชน โดยสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งของสังคมให้เกิดขึ้นอีก”
“เทพไท” วอนทุกฝ่ายหยุดสร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง อย่าฟื้นอดีตเพื่อปฎิเสธความผิดของตัวเอง
ข่าวที่น่าสนใจ
นายเทพไท กล่าวต่อว่า “ส่วนตัวเห็นว่าบ้านเมืองควรจะก้าวข้ามความขัดแย้งทางการเมือง และกลุ่มคนที่เป็นแกนนำ หรือหัวโจกของขบวนการขัดแย้ง ก็ควรจะทบทวนบทบาทของตัวเอง ไม่ควรปลุกระดมสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นระหว่างคนในชาติอีก มีแกนนำของกลุ่มคนเสื้อแดงในอดีต มีความพยายามที่จะเคลื่อนไหว โดยการหยิบฉวยเอาเหตุการณ์คนเสื้อแดงเสียชีวิตมาเคลื่อนไหว เหมือนกับการ แก้ตัว แก้เกี้ยวที่ตัวเองเป็นส่วนหนึ่งในการนำผู้คนมาเสียชีวิต โดยพยายามโยนความผิดไปยังรัฐบาลในยุคนั้น โดยใช้วาทกรรมต่างๆนานา กล่าวหาผู้รับผิดชอบในยุคนั้นว่า ยังไม่ได้รับโทษบ้าง ทั้งที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว และอยากให้ทุกฝ่ายได้เคารพกระบวนการยุติธรรม ยึดคำพิพากษาของศาลเป็นข้อยุติ การที่แกนนำบางคนพยายามเคลื่อนไหวในตอนนี้ ก็เพื่อปกปิดความผิดของตัวเอง และปฎิเสธความรับผิดชอบการเป็นผู้นำการชุมนุมของตัวเอง ในข้อกล่าวหาพาคนไปตาย และเผาบ้านเผาเมือง ซึ่งเป็นชนักติดตัวจนถึงทุกวันนี้ ไม่สามารถที่จะล้างคราบความผิดนี้ออกจากตัวไปได้ จึงพยายามดิ้นรน ปฏิเสธและโยนความผิดให้กับคนอื่น”
นายเทพไท กล่าวอีกว่า “ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายได้ยุติการสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งในสังคม ให้เกิดขึ้นมาอีก ขอให้ร่วมกันผลักดันให้สังคมไทย เดินหน้าไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ความขัดแย้งในอดีตที่ผ่านมา ก็ควรจะปล่อยวาง กลุ่มบุคคลที่เป็นเงื่อนไขของความขัดแย้ง ก็ควรที่จะยุติบทบาทการเคลื่อนไหว ปล่อยให้สังคมขับเคลื่อนไปเอง ด้วยแนวทางและวิถีทางประชาธิปไตยจะดีที่สุด”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง