"ลดวันกักตัว" สาธารณสุข ย้ำใช้ มาตรการ 2U ช่วงเทศกาลสงกรานต์ คณะกรรมการโรคติดต่อเห็นชอบ ลดกักตัวเหลือ 5 วัน จ่อเสนอ ศปก.ศบค. พิจารณาใช้หลังสงกรานต์
ข่าวที่น่าสนใจ
เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ถึงกรณีขอความร่วมมือประชาชนใช้มาตรการ 2U เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่และรับเชื้อโควิด โดยมี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อในทุกจังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการมากในกลุ่มสีเหลืองและสีแดงต้องเข้ารักษาตัวใน รพ. อัตราครองเตียงประมาณ 30% ทาง สธ. ได้เตรียมพร้อมยาต้านไวรัสที่จะใช้รักษาผู้ป่วยโควิด ทั้งยาฟาวิพิราเวียร์ ยาโมลนูพิราเวียร์ และยาแพ็กซ์โลวิด รวมถึงจัดหาเวชภัณฑ์ซึ่งเป็นสารภูมิคุ้มกันชนิดออกฤทธิ์ยาว หรือ Long acting antibodies สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงและมีภูมิคุ้มกันต่ำ
ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด ภาพรวมไปแล้วกว่า 130 ล้านโดส ครอบคลุมเข็มแรกกว่า 80% เข็มที่สอง 73% และเข็มที่สาม 35% แต่ยังมีผู้สูงอายุอายุ 60 ปีขึ้นไปและผู้ป่วยติดเตียงจำนวนหนึ่งที่เดินทางไม่สะดวกทำให้ยังไม่ได้รับวัคซีน ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาจึงมีการรณรงค์ Save 608 by booster dose เร่งรัดการฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ โดยให้เจ้าหน้าที่ร่วมกับ อสม. ออกสำรวจ และให้บริการฉีดวัคซีนเชิงรุกถึงบ้านโดยเร็ว เพื่อป้องกันการเสียชีวิต
ทั้งนี้ ในเทศกาลสงกรานต์ ขอย้ำความสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อในกลุ่มผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือยังไม่ได้ฉีดเข็มกระตุ้น และขอความร่วมมือประชาชนใช้ มาตรการ 2U เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่และรับเชื้อโควิด
- สวมหน้ากาก
- เว้นระยะห่าง เมื่อใกล้ชิดผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง
- งดรับประทานอาหารร่วมกัน
- ดูแลตนเองให้ปลอดความเสี่ยงติดเชื้อ (Self clean-up) ก่อนกลับไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่
- ทุกกลุ่มอายุเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด ทั้งเข็มปกติและเข็มกระตุ้น
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นสำคัญ 3 เรื่อง ได้แก่
- คณะกรรมการด้านวิชาการฯ มีมติเห็นชอบให้ลดวันกักตัวสำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงสูงโควิด-19 จากกักตัว 7 วัน และสังเกตอาการ 3 วัน เหลือกักตัว 5 วัน และสังเกตอาการ 5 วัน
- ในปี 2565 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจะสามารถจัดหาวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) ในเด็กนักเรียนหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ปีการศึกษา 2562 – 2564 ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเนื่องจากกรณีวัคซีนขาดชั่วคราวได้จำนวนประมาณ 8 แสนโดส
- คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค มีมติเกี่ยวกับการให้วัคซีนโปลิโอชนิดฉีด (IPV) ในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และขยายการให้บริการวัคซีน IPV เป็น 2 เข็มในเด็กอายุ 2 และ 4 เดือน และวัคซีนโปลิโอชนิดรับประทาน (OPV) จำนวน 3 ครั้ง ที่อายุ 6 เดือน 1.5 ปี และ 4 ปี
ด้าน อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ได้เห็นชอบให้ลดวันกักตัวในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 5+5 คือกักตัว 5 วันและสังเกตอาการอีก 5 วัน ขั้นตอนจากนี้ ต้องแจ้งให้ที่ประชุม ศปก.ศบค. รับทราบเพื่อดำเนินการต่อไป โดยจะเริ่มใช้หลังสงกรานต์นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง