วันที่ 18 เม.ย. เมื่อเวลา 11.40 น. ที่รัฐสภา นายวิเชียร ชวลิต อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และอดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางมายังรัฐสภา เพื่อยื่นหนังสือขอลาออกจากการเป็นส.ส. ต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พร้อมเข้าอำลานายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า ตนไม่คิดว่าจะต้องมาแถลงข่าวที่นี่ และในวาระนี้ โดยตั้งแต่เข้ามาทำงานการเมืองภายหลังจากเกษียณอายุราชการในตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย และเกษียณอายุที่ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เริ่มจากชีวิตหักเหมาทำงานการเมือง เป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ จนได้มาเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 หลังจากนั้นถือว่าเป็นโอกาสสำคัญของชีวิต เพราะตลอด 3 ปีได้ทำหน้าที่ในสภาฯ ด้วยความคาดหวัง มุ่งหวังและตั้งใจทำหน้าที่ส.ส.ให้สมบูรณ์ เริ่มทำหน้าที่เป็นกรรมาธิการการยกร่างหรือแก้ไขข้อบังคับการประชุมสภาฯ จากนั้นได้มีโอกาสทำงานในตำแหน่งต่างๆมากมาย เป็นประสบการณ์ที่มีความสำคัญ และคิดว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้เรามีประสบการณ์น่าจะทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองและประชาชนมากมาย แต่เมื่อเวลาหนึ่งมีการเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งและหลายอย่าง ตนคิดว่าจากที่เราคาดหวังและมุ่งหวังที่อาจจะทำได้ไม่สำเร็จ จึงจำเป็นต้องลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ โดยได้แจ้งต่อพรรคพลังประชารัฐและสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรียบร้อยแล้ว
“หลายคนคงคิดว่าการลาออกไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหา แต่ผมยืนยันว่าตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว และคิดว่าสิ่งที่อยากจะทำนั้นยังมีอีกมากมาย โดยเฉพาะความรู้ ความสามารถที่ผมมีน่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ถึงเวลาแล้วที่จะต้องพิจารณา ผมเองว่าจะไปทำหน้าที่ที่ไหน ที่จะทำให้สิ่งที่ตนมุ่งหวังประสบความสำเร็จ จึงจำเป็นต้องลาออก ถึงแม้ว่าจะเคยเป็นกรรมาธิการดูแลงบประมาณมาตลอดระยะเวลา 3 ปี และเป็นรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) อีกทั้งยังทำหน้าที่หลายอย่าง ถือเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่า และขอเลือกทางเดิน ซึ่งกำลังพิจารณาว่าจะไปทำงานต่อที่ไหน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและบ้านเมืองต่อไป”นายวิเชียร กล่าว
เมื่อถามว่า หลังจากที่ลาออกแล้วจะไปร่วมงานกับนายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.คลัง ในฐานะผู้ก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทยหรือไม่ นายวิเชียร กล่าวว่า กำลังคิดอยู่ หลายคนอาจสงสัยว่าจะไปเลยหรือไม่อย่างไร ทำไมจึงลาออก ตนแจ้งไปตั้งแต่ต้นแล้วว่าเรามีความมุ่งหวังที่อยากทำงานเพื่อประโยชน์ประชาชน ที่ไหนที่สามารถทำให้เราได้มีโอกาสได้ทำก็ เป็นทางเลือกที่สำคัญ ซึ่งกำลังพิจารณาอยู่ โดยภายในเร็ววันนี้ก็จะแจ้งให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป