‘สุรเดช ยะสวัสดิ์’ อดีตประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬา วุฒิสภา ชี้นายกเมืองพัทยาคนใหม่ต้องต่อยอด ‘บิ๊กแป๊ะ-สนธยา’ หลังกรุยทางรองรับอนาคตมาอย่างมีศักยภาพ เผยโครงการผลักดันเมืองพัทยาสู่เมืองภาพยนตร์แห่งยูเนสโก้คือวิสัยทัศน์ที่หลักแหลม เปรยอยากเห็นนักบริหารคนรุ่นใหม่คุณภาพระดับอินเตอร์ต่อรองได้ทุกเวทีทั่วโลก พร้อมประสานงานได้ทั้งระดับท้องถิ่น ระดับรัฐบาล หรือสายตรงนายกรัฐมนตรี แก้ปัญหาให้เมืองพัทยา
นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ อดีตประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬา วุฒิสภา อดีตสมาชิกวุฒิสภา และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้ร่วมทำงานด้านการยกระดับพัฒนาการท่องเที่ยวของประเทศไทยในฐานะสมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากการเลือกตั้ง และรองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ได้ร่วมทำงานแก้ไขปัญหาและอุปสรรคการท่องเที่ยวในด้านต่างๆ จนการท่องเที่ยวไทยสามารถก้าวสู่เวทีโลกได้ เมืองพัทยาถือเป็นเมืองท่องเที่ยวทางทะเลระดับโลก ที่เคยผลักดันมานานแล้วให้เมืองพัทยามีการพัฒนาจนมีศักยภาพเทียบเคียงเมืองท่องเที่ยวทางทะเลชื่อดังและมีชื่อเสียง อาทิ หาดไวกิกิของฮาวาย หรือหาดโคปาคาบาน่าที่บราซิล เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไปสู่การกระจายรายได้ในประเทศ ซึ่งเมืองพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายและมีศักยภาพพอที่จะสามารถแข่งขันกับเมืองท่องเที่ยวทางทะเลระดับโลกได้เป็นอย่างดี หากมีผู้บริหารท้องถิ่นที่มีดีกรีและมีศักยภาพ
ส่วนตัวแล้วมองว่านายกเมืองพัทยาต้องมีคุณสมบัติระดับอินเตอร์ฯ ไม่อย่างนั้นไม่สามารถบริหารเมืองพิเศษได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะเมืองพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับอินเตอร์เนชันแนล มีความพร้อมด้านการท่องเที่ยวทั้งแบบธรรมชาติ และเอนเตอร์เทนเม้นต์ มีความสะดวกสบายครบวงจร และอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานครฯ เบื้องต้นคือเรื่องของการสื่อสาร การใช้ภาษานายกเมืองต้องสื่อสารได้ สามารถประชุมได้ทั่วโลก เป็นตัวแทนโปรโมทเมืองพัทยา ดึงนักท่องเที่ยวและนักลงทุนให้มาพัทยา รวมถึงต่อรองประโยชน์เข้าเมืองพัทยาได้ในทุกเวทีทั่วโลก นายกเมืองพัทยาต้องเป็นคนมีฝีมือ สามารถประสานได้ทั้งนอกและใน ทุกระดับ ทั้งท้องถิ่น ระดับรัฐบาล หรือนายกรัฐมนตรี ในฐานะเมืองท่องเที่ยวที่ทำรายได้เข้าประเทศปีละจำนวนมากได้ จากข้อมูลก่อนสถานการณ์โควิด-19 พัทยามีนักท่องเที่ยวถึงปีละ 18 ล้านคน ทำรายได้ถึง 3 แสนล้านบาท ศักยภาพท้องถิ่นตรงนี้ นายกเมืองพัทยาต้องสามารถสายตรงเพื่อเข้าถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนในเมืองพัทยาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
อดีตประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬา วุฒิสภา เผยด้วยว่า ที่ผ่านมาเคยร่วมงานกับนายสนธยา คุณปลื้ม อดีตนายกเมืองพัทยา สมัยที่ยังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคนที่ 1 ถือได้ว่าเป็นนักพัฒนาท้องถิ่นสมัยใหม่ที่มีวิสัยทัศน์เฉียบคม มองเห็นการพัฒนาและเจริญเติบโตของประเทศด้วยมุมมองที่ดีและมีประโยชน์ต่อประเทศชาติ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเมืองพัทยา ได้วางโครงการผลักดันให้เมืองพัทยามีการพัฒนาสู่เมืองภาพยนตร์แห่งยูเนสโก้ เป็นวิสัยทัศน์แห่งอนาคตที่น่าชื่นชม นายกเมืองพัทยาต้องมองวิสัยทัศน์การพัฒนาการท่องเที่ยวท้องถิ่นให้ออก นายสนธยา คุณปลื้ม ผู้ซึ่งเคยผ่านการทำงานในระดับชาติมาแล้วและลงมาทำงานในระดับท้องถิ่น โดยการปูทางวางโครงสร้างที่มั่นคงและเข้มแข็งทางการท่องเที่ยวเมืองพัทยามาอย่างชัดเจนแล้ว ผู้บริหารเมืองพัทยาชุดใหม่ควรมีการต่อยอดสิ่งที่เป็นประโยชน์ เพราะหากไม่มีการต่อยอดที่ดีก็ขาดความยั่งยืน
“นายกเมืองพัทยาต้องมีวิสัยทัศน์ต่อยอดเรื่องการแก้ปัญหาระบบสาธารณูปโภค ต่อยอดโครงการการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินสร้างความสวยงามในเมืองท่องเที่ยว แก้ปัญหาน้ำท่วมขัง การวางแผนจัดการขยะแบบอินเตอร์เนชันแนล มีโรงเผาขยะและผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้าแบบเซี่ยงไฮ้ หรือญี่ปุ่น วางระบบดูแลความปลอดภัยในเมืองท่องเที่ยว เที่ยวด้วยการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มมากขึ้น เหมือนประเทศอังกฤษ ที่มีกล้องวงจรปิดมากถึง 3-4 ล้านตัว มาช่วยลดปัญหาอาชญากรรมที่อาจเกิดกับนักท่องเที่ยวและประชาชน หรืออีกหลายประเทศที่ได้ทำจนประสบความสำเร็จไปแล้ว นายกเมืองพัทยาต้องมีวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาเมืองพัทยาไปสู่เมืองท่องเที่ยวระดับอินเตอร์ฯ และที่สำคัญคือต้องต่อยอดการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวได้ หลายโครงการที่มีการริเริ่มที่ดีก็สมควรที่จะมีการต่อยอดที่ดีต่อไปด้วยเช่นกัน” อดีตประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬา วุฒิสภา กล่าวแสดงความคิดเห็น
อนันต์ กิ่งสร ผู้สื่อข่าวTOPNEWS ประจำ จ.ชลบุรี