ขสมก. ประกาศ พนักงานขับรถ ติดโควิด พร้อมเปิดไทมไลน์ละเอียด

ขสมก. ประกาศ พนักงานขับรถ ติดโควิด พร้อมเปิดไทมไลน์ละเอียด

วันที่ 20 มิถุนายน 2564 คณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID – 19) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ประกาศว่า ตลอดระยะเวลาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ที่ผ่านมาองค์การ ขนส่งมวลชนกรุงเทพ กระทรวงคมนาคม ได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติการป้องกันของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด

แต่ทั้งนี้ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ขออภัยที่ต้องแจ้งให้ทราบว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2564 พนักงานขับรถโดยสารปรับอากาศ สาย 543 เพศชาย อายุ 39 ปี ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ณ โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ต่อมาเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2564 เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้แจ้งให้ทราบว่าพนักงานคนดังกล่าวเป็นผู้ติดเชื้อฯ จึงให้พนักงานอยู่ที่ บ้าน เพื่อรอรถพยาบาลมารับไปรักษาที่ โรงพยาบาลสนาม กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 ในเวลา 13.00 น.

องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ได้รับทราบข้อมูลดังกล่าว จากผู้อำนวยการเขตการเดินรถที่ 1 จึงได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ดังต่อไปนี้

1. องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ได้มีการแจ้งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อแจ้ง รายละเอียดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID – 19) (ตามแนวทางปฏิบัติกรณีพบผู้ติดเชื้อฯ) โดยได้ประสานเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุข

2. พนักงานผู้ติดเชื้อได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID – 19) อย่างเคร่งครัด โดยสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารและล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ รวมทั้ง มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ก่อนปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้ง ซึ่งอุณหภูมิร่างกายของพนักงาน เมื่อวันที่ 9 – 10 มิถุนายน 2564 อยู่ที่ 36.5 องศาเซลเชียส

โดยไทม์ไลน์ของพนักงานสรุปได้ ดังนี้

วันที่ 8 มิถุนายน ๒๕๖๔ วันหยุดประจำสัปดาห์ พนักงานพักอาศัยอยู่ที่บ้าน ณ หมู่บ้านปิ่นเจริญ 3 ดอนเมือง

วันที่ 9 มิถุนายน ๒๕๖๔ ปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารปรับอากาศ สาย 543 หมายเลข 1 – 70351 ตั้งแต่เวลา 05.00-12.00น. หลังเลิกงานได้กลับที่พักอาศัยทันที โดยมารดาของพนักงาน ซึ่งพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกับพนักงาน ได้เดินทางไปที่ โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เพื่อเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อฯ ในสถานที่ทำงานของมารดาพนักงาน

วันที่ 10 มิถุนายน 2564 ปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารปรับอากาศ สาย 543 หมายเลข 1 – 70351 ตั้งแต่เวลา 05.00-12.00น. หลังเลิกงานได้กลับที่พักอาศัยทันที โดยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้แจ้งให้ทราบว่ามารดาของพนักงานเป็นผู้ติดเชื้อฯ

วันที่ 11 มิถุนายน 2564 เวลา 09.00 น. พนักงานและภรรยาของพนักงาน ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เพื่อเข้ารับการตรวจหาเชื้อฯ และเดินทางกลับบ้าน ในเวลา 11.00 น.

วันที่12 – 14 มิถุนายน 2564 พนักงานกักตัวอยู่ที่บ้าน

วันที่ 15 มิถุนายน 2564 พนักงานกักตัวอยู่ที่บ้าน เวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ แจ้งผลการตรวจให้ทราบว่า พนักงานและภรรยาของพนักงานไม่พบเชื้อฯ

วันที่ 16 – 17 มิถุนายน 2564 พนักงานกักตัวอยู่ที่บ้าน

วันที่ 18 มิถุนายน 2564 เวลา 09.00 น. พนักงานและภรรยาของพนักงาน ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เพื่อเข้ารับการตรวจหาเชื้อฯ ครั้งที่ 2 และเดินทางกลับบ้าน ในเวลา 11.00 น.

วันที่ 19 มิถุนายน 2564 เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้แจ้งให้ทราบว่าพนักงานและภรรยาของพนักงานเป็นผู้ติดเชื้อฯ จึงให้อยู่ที่บ้านเพื่อรอรถพยาบาลมารับไปรักษาต่อมาเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่นำรถพยาบาล มารับพนักงานและภรรยาของพนักงานไปรักษาที่โรงพยาบาลสนาม กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ ๑

3. เมื่อพนักงานขับรถโดยสารนำรถกลับเข้าอู่ในแต่ละรอบ จะมีการฉีดพ่นทำความสะอาดภายในรถโดยสารทันทีด้วยผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70 % จึงมั่นใจได้ว่ารถโดยสารขององค์การมีความสะอาด ปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) นอกจากนี้ องค์การ ได้พักการใช้งานรถโดยสารปรับอากาศ สาย 543 จำนวน 1 คัน ที่พนักงานผู้ติดเชื้อได้ปฏิบัติหน้าที่ คือรถโดยสาร หมายเลข 1 – 703541 เป็นระยะเวลา 3 วัน เพื่อทำการฉีดพ่นทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคภายในรถ รวมถึง อู่จอดรถและท่าปล่อยรถโดยสาร

4. องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ได้มีการตรวจสอบ พบว่าพนักงานเก็บค่าโดยสาร จำนวน 2 คน
ปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารคันเดียวกับพนักงานผู้ติดเชื้อ ฯ จึงให้พนักงานเก็บค่าโดยสารดังกล่าวหยุดงาน
ไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) หากได้ผลเป็นประการใดจะแจ้งให้ทราบ
ต่อไป

ทั้งนี้ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) อย่างเคร่งครัด ได้แก่ การสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร การล้างทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ การฉีดพ่นทำความสะอาดภายในรถโดยสารด้วยแอลกอฮอล์ ทั้งก่อนและหลังนำรถออกวิ่งให้บริการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการเดินทาง

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

พ่อเลี้ยงหื่น! มอมเหล้าลูกเลี้ยง วัย 16 ปี จนขาดสติก่อน ลวนลาม ขณะแม่อยู่ด้วยก็ไม่เว้น เครียดหนักเคยคิดสั้นฆ่าตัวตาย สุดอึ้ง!! เอาเรื่องไปบอกแม่ กลับไม่เชื่อ
พล.ต.ท.ธนายุตม์ ยื่นสำนวนคดี “แอม ไซยาไนด์” ให้อัยการด้วยตัวเอง 14 รายการ
ราชกิจจาฯเผยแพร่ พระบรมราชโองการ ประกาศ ให้ชื่อใหม่ "เจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี"
“แม่สามารถ” เครียดจัด ผูกคอคาห้องขังดีเอสไอ จนท.ช่วยระทึก ห่วงลูกจะอดข้าวประท้วง ขอความเป็นธรรม
เคราะห์ร้าย ! หนุ่มวัย 18 ปี ขี่จยย. ถูกกันสาดหล่นใส่หัวเจ็บสาหัส
ยูเครนลั่นไม่ทำลายทุ่นระเบิดอ้างถูกรัสเซียรุกราน
ผบ.ตร.สั่งตรวจสอบดำเนินคดี “กลุ่มน้ำไม่อาบ” ทุกมิติ พร้อมเอาผิดตามหลักฐานคลิปที่ปรากฏ
ขุนเขา ‘ฮว่าซาน’ ่ของจีนสวยสะกดยามห่มหิมะขาว
ทหารพรานจัดกำลังตรวจค้นเก็บกู้บ่วงดักสัตว์ป่า
ผลักดัน ! แรงงานต่างด้าวมากกว่า 100 ราย ออกนอกประเทศ หวั่นเกรงมาสร้างความวุ่นวายในพื้นที่

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น