เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 23 เม.ย. ที่ศูนย์การค้าอยุธยา ซิตี้ พาร์ค จ.พระนครศรีอยุธยา พรรคภูมิใจไทยจัดงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นประธาน พร้อมด้วยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย กรรมการบริหารพรรค ส.ส. สมาชิกพรรคภูมิใจไทยในพื้นที่ภาคกลาง และตัวแทนสมาชิกพรรคพื้นที่ภาคอื่นๆ รวมถึงนายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่วันนี้เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ในการประชุมของพรรคภูมิใจไทย โดยได้สวมเสื้อสมาชิกพรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมงานด้วย ทั้งนี้ก่อนเข้าร่วมงานทุกคนต้องแสดงผลตรวจเอทีเคต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกับสวมหน้ากากอนามัยตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
ภท. บุกกรุงเก่า จัดงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 “รมต.-ส.ส.-สมาชิกพรรค” ร่วมงานคึกคัก ด้าน “อนุทิน” ลั่น พรรคพูดไม่เก่งแต่ทำได้ทุกอย่าง หยุดทำงานไม่ได้ถ้าปชช.ยังไม่กินดีอยู่ดี ขณะที่ “คารม” เลิกเขินสวมเสื้อสมาชิกภท. โผล่ร่วมงาน
ข่าวที่น่าสนใจ
จากนั้น นายอนุทิน กล่าวปราศรัยต่อสมาชิกพรรคตอนหนึ่งว่า เรามาที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพราะการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคภูมิใจไทยจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ผู้แทนครบทั้ง 5 เขตของจ.พระนครศรีอยุธยา การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาพี่น้องชาวอยุธยาให้ส.ส.พรรคเรา 2 คน คือ นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร และนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล ต้องถือว่าเป็นพระคุณอันใหญ่หลวงของพี่น้องชาวพระนครศรีอยุธยา แต่ครั้งหน้าขอให้เชื่อมั่นเรามากกว่านี้ พรรคต้องเตรียมตัวสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป เราตั้งใจจริงที่จะรับใช้ประชาชน วันนี้พรรคภูมิใจไทยย่างเข้าปีที่ 15 เราเป็นพรรคที่มีประสบการณ์ทางการเมืองมากพอสมควร ซึ่งมั่นใจว่าเรามีพี่น้องประชาชนเป็นกำแพงที่จะปกป้องให้เราได้ทำงาน เพื่อให้เกิดประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ เราไม่ได้ทำเฉพาะหน้าที่ฝ่ายบริหารเท่านั้น แต่เรายังทำหน้าที่ด้านนิติบัญญัติในการออกกฎหมายเพื่อประชาชนด้วย ซึ่งตำแหน่งที่เราภูมิใจ และถือเป็นเกียรติยศสูงสุดคือการเป็นผู้แทนประชาชน
“พวกเราซึมซับว่าทุกปัญหาของประชาชน คือปัญหาของเรา และเป็นงานของพวกเรา ถ้าประชาชนยังไม่ได้กินดีอยู่ดี เราหยุดทำงานไม่ได้ จึงเป็นสโลแกนอยู่ในจิตสำนึกของเราภูมิใจไทยว่าพูดแล้วทำ ไม่ใช่พูดลมๆแล้งๆ เห็นได้จากการที่ 3 ปีมานี้นโยบายหลักๆของพรรคทำด้วยความสำเร็จหมดแล้ว พรรคพูดไม่เก่งแต่ทำได้ทุกอย่าง และการทำงานในฝ่ายบริหารเราก็ทำงานอย่างมีเหตุมีผล ที่เรากล้าเพราะมีประชาชนคอยสนับสนุน นี่ที่เขาเรียกว่าเห็นช้างตัวเท่ามด เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับรัฐมนตรีของพรรคที่ได้เข้าไปทำงานในคณะรัฐมนตรี (ครม.)” นายอนุทิน กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-