เมื่อวันที่ 22 เม.ย.65 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดประชุมคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมฯ วาระปี 2565-2567 เป็นครั้งแรก มีคณะกรรมการฯ ทั้งสิ้น 363 คน โดยที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์เลือก “นายเกรียงไกร เธียรนุกุล” ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งนับเป็นประธานส.อ.ท. คนที่ 16
สำหรับนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ปัจจุบันอายุ 62 ปี มีประสบการณ์ทำงานในสภาอุตฯ มาแล้วหลายปี ก่อนหน้านี้ ดำรงตำแหน่งรองประธาน ส.อ.ท. ดูแลสายงานงานส่งเสริมสนับสนุนอุตสาหกรรม ขณะที่ตำแหน่งปัจจุบัน อาทิ ประธานสภาธุรกิจไทย-รัสเซีย , ประธานคณะกรรมการความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-ไต้หวัน , กรรมการมาตรฐานอุดมศึกษา กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาตร์ วิจัยและนวัตกรรม
นอกจากนี้ ยังประสบการณ์การทำงาน ทั้งในภาครัฐและเอกชน อาทิ กรรมการ ระบบการชำระเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) , การแข่งขันทางการค้า กรมการค้าภายใน , กรรมการ การไฟฟ้านครหลวง ,กรรมการ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล เป็นต้น
โดยนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากคณะกรรมการ ส.อ.ท. ให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยพร้อมจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมไทย เพื่อประเทศไทยที่เข้มแข็งกว่าเดิม (Strengthen Thai Industries for Stronger Thailand)
ชูนโยบาย 4 กลไกขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทย สู่ ONE FTI ดังนี้
1.Industry Collaboration ผนึกกำลังอุตสาหกรรมไทยให้เข้มแข็ง
- ผลักดัน 1 อุตสาหกรรม 1 จังหวัด
- ผลักดันโครงการ Smart Agricultural Industry (SAI)
- International collaboration นำอุตสาหกรรมไทยสู่ตลาดโลก
2.First2Next-Gen Industry ขับเคลื่อนอุตสาหกรรม สู่อนาคต
- Innovation Capability
o สานต่อกองทุนนวัตกรรม
o จับคู่ Start up ยกระดับอุตสาหกรรม
- Technology Improvement
o ส่งเสริมการใช้ Industry 4.0 Platform
- Human Improvement
o ปรับโครงสร้างค่าจ้างแรงงานด้วย Pay by Skill
o Up/Re-Skill แรงงานสู่มาตรฐานคุณวุฒิวิชาชีพด้วย FTI Academy
- Environmental Improvement
o พัฒนาอุตสาหกรรมสู่ Eco Product / Eco Factory / Eco Town
o จัดตั้ง Carbon Credit Exchange รองรับ Carbon Neutrality
o รับรองผลิตภัณฑ์ไทยด้วย Thailand Forest Certification Council (TFCC)
- Smart SMEs ยกระดับ SMES สู่สากล
- พัฒนา SMEs ใน 3 ด้าน
o Go Digital
o Go Innovation
o Go Global
การช่วยเหลือ SMEs
- Financial Support
o Digital Supply Chain Financing
o Incubation Program to Live Exchange
- Marketing
o SME Proactive ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ พา SMEs ไปออกบูธต่างประเทศ
o Business Matching ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
4.Smart Service Platform พัฒนาการบริการเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทย
- รับรอง Made in Thailand (MiT) เพื่อการสร้างโอกาสสินค้าไทย
- เพิ่มช่องทางการขายออนไลน์ ด้วย FTI.E-Business Platform
- ใช้ประโยชน์ Big Data ภาคอุตสาหกรรม ด้วย IDS Platform (Industry Data Space)
- เพิ่มโอกาสทางธุรกิจและสิทธิประโยชน์ให้สมาชิกด้วย FTI.E-Member Card
ทั้งนี้ ได้แต่งตั้งรองประธานสภาอุตสาหกรรม 43 ท่าน เพื่อมาร่วมเคลื่อนภารกิจในการสร้างอุตสาหกรรมไทยให้เข้มแข็ง ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างประเทศไทยให้แข็งแรงกว่าเดิม และเติบโตอย่างยั่งยืน