นายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง เป็นประธานพิธีเปิดโครงการ “ตลาดเกษตรสีเขียว” เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้กับชุมชนชาว อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีแนวคิดในการดำเนินงานส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรในพื้นที่ตามแนวคิด “ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมพัฒนา” สร้างกลยุทธ์ในการพัฒนาเกษตรกร ส่งเสริมการเกษตรแบบครบวงจร ที่มี ผลักดันพัฒนาต้นทางคือการเพิ่มศักยภาพการผลิต กลางทางคือการแปรรูปเพิ่มมูลค่า และปลายทางคือการเข้าถึงตลาดหรือผู้บริโภค มุ่งเน้นการส่งเสริมเกษตรกรอย่างจริงจัง เพื่อให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนในการผลิตสินค้าและสามารถเพิ่มผลผลิตของตนเองได้ พร้อมแปรรูปเพิ่มมูลค่าพัฒนาสินค้าและบรรจุภัณฑ์
ข่าวที่น่าสนใจ
โดย นายสมมาฏฐ์ โพธิ นายอำเภอพิบูลมังสาหาร ได้ให้สัมภาษณ์ กล่าวว่า โครงการ “ตลาดเกษตรสีเขียว” เริ่มต้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2563 เป็นการรวมกลุ่มสหวิชาอาชีพต่างๆรวมถึงสินค้า OTOP โดยในตอนแรกมีการรวมกลุ่มกันเพียงแค่ 15 กลุ่ม แต่มีการดำเนินการกันมาอย่างต่อเนื่องจนสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนได้อย่างมากมาย ต่อมากลุ่มสหวิชาชีพดังกล่าวมีการขยายออกเป็น 40 กลุ่ม จาก 25 อำเภอ ในจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน สามารถสร้างรายได้มากกว่า 6 แสนบาท โดยภาพรวมตั้งแต่มีโครงการ สามารถสร้างรายได้ถึง 2.6 ล้านบาท
โดยชาวบ้านที่สนใจจะเข้าร่วมโครงการ “ตลาดเกษตรสีเขียว สามารถติดต่อไปยังคณะกรรมการชุมชนได้ด้วยตนเองโดยนำสินค้าที่จะเข้าร่วมนำมาเสนอตามหลักเกณฑ์ เช่น เกษตรอินทรีย์ สินค้าพืชผักที่ปลอดสารพิษ ซึ่งสินค้าทั้งหมดจะเป็นสินค้าราคาถูก เนื่องจากเป็นโครงการที่ให้ผู้ผลิตพบผู้บริโภคโดยตรง จะไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางที่ทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้น จึงอยากให้ประชาชนที่ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการนั้นมีพื้นที่ที่จะนำสินค้าของตนเองมาจำหน่ายสร้างรายได้ให้กับตนเอง ที่ ลานจอดรถหน้าที่ว่าการอำเภอพิบูรณ์มังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี
ด้าน นายอำนาจ ดาดสันเทียะ อายุ 48 ปี ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กล่าวถึงหลังเข้าร่วมโครงการ “ตลาดเกษตรสีเขียว” ว่า ตนเป็นตัวแทนสัมมาชีพชุมชนตำบลโนนกลาง ได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2563 โดยมีสมาชิกเข้าร่วม 20 ครัวเรือน ได้ทำการศึกษาปลาแห้งและพัฒนาสินค้ากันมาอย่างต่อเนื่องและได้จดเป็นสินค้า OTOP ใน พ.ศ. 2564 เป็นการรวมชาวบ้านกลุ่มต่างๆ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ซึ่งในตอนนี้มีความรักสามัคคีทำงานร่วมกัน ก่อให้เกิดเกื้อกูลสร้างรายได้ซึ่งกันและกัน ซึ่งโครงการดังกล่าวสามารถแก้ไขปัญหาในชุมชนของตนได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้มีความมั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืน สามารถลดรายจ่ายแถมยังสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัว ซึ่งกลุ่มของตนจะเปลี่ยนฐานะจากคนทำมาหากินมากลายเป็นคนทำมาค้าขาย ก่อให้เกิดการค้าโดยยึดผลกำไรเป็นที่ตั้ง ซึ่งสินค้าของเราจะขายเป็นธรรมมาก ในตอนนี้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนของเรากำลังพัฒนาสินค้าต่างๆออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งกลุ่มของเราที่เข้าร่วมโครงการนั้นสามารถสร้างรายได้ 40,000 – 60,000 บาท และมีจำหน่ายผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์แล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-