“หมอปลา” พบ “พระพยอม”ปม “ทิดกาโตะ” ชี้เนื้องอกศาสนา

พระพะยอม เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เผยกรณีอดีตหลวงพี่กาโตะ นั้น หากเป็นเรื่องจริงก็เปรียบเสมือนตาลยอดด้วน ที่หมดโอกาสเจริญงอกงามในธรรมวินัยได้ หรือไม่สามารถกลับมาบวชได้อีก ส่วนภารกิจเปิดโปงวงการสงฆ์ของหมอปลา ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ยากลำบาก เพราะต้องมีหลักฐานแน่นหนา แต่หากทำด้วยใจบริสุทธิ์ มองว่าเป็นการปกป้องคุ้มครอง ซึ่งน้อยคนที่จะทำ

นายจีรพันธ์ เพชรขาว” หรือ “หมอปลา มือปราบสัมภเวสี” พร้อมทีมงานและสื่อมวลชนเดินทางไปยังวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อขอความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวเกี่ยวกับพระราชธรรมนิเทศน์ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว

ในกรณีของกาโตะ นั้น หากเป็นเรื่องจริงก็เปรียบเสมือนตาลยอดด้วน คือไม่มีโอกาสแทงยอดออดใบได้อีก หมดโอกาสเจริญงอกงามในธรรมวินัยได้ หรือเรียกง่ายๆว่าไม่สามารถกลับมาบวชได้แล้ว และจำเป็นต้องมีการสอบเส้นทางการเงินและมีโอกาสที่จะปราชิกได้ จึงอยากฝากถึงกาโตะ ไว้ว่า ทำกรรมใดไว้ ก็ต้องรับกรรมที่ทำไว้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ในกรณีที่พระผู้ใหญ่ใน จ.นครศรีธรรมราช อ้างว่าเป็นตัวกลางให้นางสาวตอง กับกาโตะ จบเรื่องนี้ต่อกัน โดยให้บอกสื่อฯว่าไม่ใช่เรื่องจริงและบอกว่าป่วยไลโพลาร์นั่นพระพยอม บอกว่าการกระทำของพระผู้ใหญ่ในลักษณะนี้เป็นการแนะแนวทางที่ผิดธรรมวินัย เป็นพระผู้ใหญ่ไม่ได้ ควรมีหลักธรรมสัจจะ ไม่ควรโกหก และในธรรมวินัยนั้น พระพุทธเจ้าไม่เคยสอน ถือว่าเป็นพวกเนื้องอกของศาสนา

นอกจากนี้พระพยอม พูดคุยกับหมอปลา ถึงภารกิจเกี่ยวกับเปิดโปงวงการสงฆ์ที่กำลังทำอยู่ว่าในปัจจุบัน การแฉเรื่องจริงเป็นเรื่องที่ยากลำบาก เพราะหลักฐานต้องแน่น ไม่อย่างนั่นจะเด้งเข้าตัว และที่สำคัญคือทำการในลักษณะนี้ควรมี Staff อย่าให้มีลักษณะก้าวร้าว อ่อนน้อมถ่อมตน ทำด้วยใจบริสุทธิ์ มองว่าเป็นการปกป้องคุ้มครอง ซึ่งน้อยคนที่จะคิดทำ เพราะคนกลัว แล้วความกลัวจะทำให้เสื่อม

แล้วถ้าถามว่าเมื่อมีเรื่องราวอื้อฉาวของวงการสงฆ์ออกมาตลอด จะทำให้คนหมดศรัทธาในพุทธศาสนาหรือเปล่าพระพยอม บอกว่าตราบใดที่ทุกข์ยังมี ศาสนาก็ยังอยู่ เหมือนกับ ไวรัสกับวัคซีน ที่เป็นของคู่กัน และต่อให้คนไม่เลื่อมใสในพระสงฆ์ แต่ศาสนาคำสอนเป็นอมตะ

ในขณะเดียวกัน หมอปลา ยังถามถึงการเปิดสำนักดูดวงของเหล่าพระสงฆ์ในปัจจุบันด้วย โดย “พระพยอม” บอกว่า การดูดวงมันดูได้ แต่อย่าอวดอ้าง หลอกลวง เพราะพระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า หากพระสงฆ์ยังนั่งฉันท์ข้าวญาติโยมอยู่ ก็ไม่ควรทำอะไรแบบนี้หรือการดูดวง เพราะมันเปลืองข้าวสุกของชาวบ้าน ดังนั้น พึ่งตนก่อน ที่จะพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ก้าวสู่ปีที่ 5 Future Food Leader Summit 2025 ชวนสร้างไอเดีย บนแนวคิด “อาหารฟื้นฟูเพื่ออนาคต” เปิดตัว Future Food AI ครั้งแรกในเอเชีย
TIPH คว้าอันดับเครดิตองค์กรสูงสุดของกลุ่มโฮลดิ้งส์ ตอกย้ำศักยภาพผ่านการประเมินจากทริสเรทติ้ง
"บิ๊กเต่า" เตรียมส่งทีมสอบ "บอสพอล" ปมเส้นเงิน 8 แสน โยงแม่นักการเมือง ส.
"วราวุธ" ขออย่านำ "เกาะกูด" เป็นประเด็นการเมืองระหว่างประเทศ ชี้ MOU 44 ไม่เกี่ยวข้อกังวลทุกฝ่าย
แม่ค้าขนมครกโอดยอมกัดฟันสู้ หลังราคาน้ำกะทิขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 100 บาทแต่ยันขายขนมครกราคาเดิมกลัวลูกค้าหด
"นายกฯ" เผย ครม.อนุมัติ 2.5 พันล้าน ฟื้นฟูเกษตรกร หลังน้ำลด
หนุ่มขับรถกระบะไปส่งหมู หลับในขับรถพุ่งชนฟุตบาท พลิกคว่ำตีลังกาชนเสาไฟ ดับคารถพร้อมเพื่อนต่างด้าวที่นั่งมาด้วยกันเสียชีวิต 2 ศพ
ครม.ตั้ง “บิ๊กรอย” นั่งที่ปรึกษาภูมิธรรม “คารม-ศศิกานต์” เป็นรองโฆษกรบ.
พบแล้ว "สุสานหรู" ถูก "ซินแส" ใช้ลวงเหยื่อ ซื้อที่ดินต่อดวงชะตาชีวิต ก่อนสูญเงินกว่า 30 ล้านบาท
"นายกฯ" ลั่นไม่แทรกแซง หลังป.ป.ช.ขอเวชระเบียน "ทักษิณ"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น