วันที่ 4 พ.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพงศกร จันทร์แก้ว หรือ “ทิดกาโตะ” ได้นำเงินมาคืนที่วัดมังคลาราม เป็นเงินจำนวน 600,000 บาท หลังจากที่เบิกเงินวัดเพ็ญญาติไปจำนวน 600,000 บาท โดยมีพยานรับทราบ 1. พระครูอรรถธรรมโกวิท เจ้าคณะอำเภอฉวาง วัดวังม่วง 2. พระบุญการ โกศล เจ้าคณะตำบลพิปูน วัดมังคลาราม 3.นายบำรุง ยอดมณี นายก อบต.กะเปียด 4.นายกิตติ หนูเนตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 5. นายจิรรัชญ์ เกษมเพชร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ผู้รับมอบเงิน 600,000 บาท เพื่อนำเข้าธนาคารบัญชีวัดเพ็ญญาติวันพรุ่งนี้ (5 พ.ค.2565) นายบำรุง ยอดมณี นายก อบต.กะเปียด รับทราบนำไปไปฝากทราบนำไปฝากธนาคาร นายโชคดี นุมาศ นายวสันติ จงรวย โดยทุกเซ็นชื่อรับทราบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทิดกาโตะ ได้นำเงินไปมอบให้ที่วัดมังคลาราม ซึ่งอยู่ในพื้นที่ อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราข ซึ่งเป็นคนละอำเภอกับ ต.กะเปียด อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อหลบหนีการติดตามของกองทัพนักข่าว โดย 1 ในพยานผู้ร่วมเซ็นรับทราบมีนายสันติ จงรวย กรรมการวัดที่มีอำนาจในการเซ็นเบิกเงินในบัญชีวัดเพ็ญญาติ ที่ราวมเซ็นเบิกเงิน 600,000 กับอดีตพระกาโตะร่วมอยู่ด้วย
ด้านนายธนาชัย เกตุโรจน์ ประธานชมรมทนายความเมืองคอน กล่าวว่า ถึงจะมีการคืนเงินที่เบิกไป 600,000 บาทแล้ว ถือว่าการกระทำผิดสำเร็จ แต่ในทางกฎหมายถือว่าเป็นการกระทำความผิดสำเร็จแล้วการเอาไปใช้ส่วนตัวอาจจะโดนข้อหายักยอกทรัพย์ของวัดได้นะครับ โทษจำคุก 3 ปี แต่ถ้าเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการรักษาทรัพย์และยักยอกทรัพย์มีโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิตและปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 400,000 บาทตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 ยอมความไม่ได้
ไพฑูรย์ อินทศิลา/จ.นครศรีธรรมราช