“ปริญญ์” รอดนอนคุก ยื่น 2 แสนประกันตัว พรุ่งนี้เตรียมโดนอีก 1 คดี

ซึ่งหลักสูตรนี้ยังมีคนอื่นเข้าร่วมอบรมด้วย รวมเป็น 2 คน ต่อมาเมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ.2561 ได้ ถูกส่งมาอบรมที่บริษัทหลักทรัพย์เเห่งหนึ่ง ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน ซึ่งมีปริญญ์ พานิชภักดิ์ ทำงานอยู่ในตำแหน่งผู้บริหาร จึงได้จัดให้ปริญญ์เป็น ‘พี่ต้นแบบอาชีพ’

ต่อมาในวันที่ 25 เมษายน พ.ศ.2561 ปริญญ์ ไปทำหน้าที่เป็นพิธีกรบรรยายเกี่ยวกับเรื่องการลงทุนและตลาดหลักทรัพย์ จึงให้ นางสาวเอ และเพื่อนออกมา ฝึกงานนอกสถานที่โดยในวันดังกล่าว นางสาวเอใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้น กระโปรงสีดำขาสั้น จนเมื่อเสร็จงานเวลา ประมาณ 15.00 น. ปริญญ์ ได้ให้เพื่อนของนางสาวเอแยกกลับบ้านไป แล้วได้พูดชักชวนจะไปส่งที่คอนโดที่พัก โดยรถยนต์ส่วนบุคคลคล้ายรถตู้สีดำ แต่เอ ไม่ยินยอม ปริญญ์ จึงอาสาจะ ไปส่งที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส

เนื่องจากเห็นว่าเป็นพี่ต้นแบบอาชีพที่มาฝึกอบรมอยู่และจะต้องเป็นผู้ประเมินการ ฝึกอบรม จึงยินยอมให้ไปส่งปริญญ์ ได้พาไปขึ้นรถที่บริเวณหน้าอาคารตลาดหลักทรัพย์ โดยในรถมีพนักงานขับรถ ประจำที่นั่งคนขับไม่มีกระจกกั้นระหว่างคนขับกับห้องผู้โดยสาร ซึ่งสามารถได้ยินการพูดคุยกันได้ชัดเจนหรือหากหันกลับมาดู ก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ระหว่างที่ นางสาวเอ นั่งเบาะด้านหลังคนขับคู่กับปริญญ์ เมื่อรถขับออกเข้าถนนรัชดาภิเษกแล้วกลับรถขับไปตามถนนรัชดาภิเษกมุ่งหน้าด้านอโศก ปริญญ์ได้ชวนพูดคุยเป็น ภาษาอังกฤษ เนื่องจากเกรงว่าคนขับรถจะรู้เรื่องที่คุยกัน

โดยเริ่มบทสนทนาเรื่องส่วนตัวเชิงชู้สาว ก่อนจะใช้มือมาจับแขนลูบขา พร้อมทั้งโอบกอด แม้หญิงสาวจะพยายามบ่ายเบี่ยง เอียงตัวหนี ซึ่งต้องอยู่ในรถดังกล่าวกับ ปริญญ์นานประมาณ 45 นาที เมื่อถึงสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสจึงขออนุญาตลงจากรถ หลังเกิดเรื่องดังกล่าส นางสาวเอ ได้ถอนตัวออกจากการฝึกอบรม เพราะเกรงว่าหากไปอาจจะเกิดอันตรายและจะถูก นายปริญญ์ ลวนลามหรือกระทำอนาจารทางเพศอีก จากนั้นได้เปิดใจเล่าให้ครอบครัวฟัง เนื่องจากจากการกระทำ ดังกล่าวทำให้ได้รับความอับอาย และหวาดกลัวในการที่จะต้องทำงานร่วมกับเพศชาย จึงมาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีจนถึงที่สุด